เชี่ยวชาญเฉพาะทางเรื่องระบบทางเดินอาหาร และตับ ครบครันด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และเทคโนโลยีทางการแพทย์ชั้นนำ พร้อมตรวจหาสาเหตุของโรค ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก จนถึงการรักษาที่ซับซ้อนของระบบทางเดินอาหาร ได้รวดเร็ว แม่นยำ ปลอดภัย เพื่อการรักษา ที่มีประสิทธิภาพ และเพื่อผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
โดยมีความพร้อมให้บริการสำหรับคนไข้ชาวไทยและชาวต่างชาติด้วยอุปกรณ์ เครื่องมือทางการแพทย์ที่ทันสมัย ตามมาตรฐานสากลที่แพทย์ทั่วโลกยอมรับ โดยโรงพยาบาลได้รับรางวัลบริการระดับมาตรฐานสากลจากสถาบัน JCI พร้อมยังเชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านการตรวจส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร และเชี่ยวชาญด้านวินิจฉัย และรักษาโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่โดยเฉพาะ โดยสถาบันโรคตับ และระบบทางเดินอาหาร โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ได้มุ่งมั่นพัฒนายกระดับมาตรฐานทางการแพทย์อย่างต่อเนื่อง
โดยร่วมมือกับโรงพยาบาล “ซาโน่” ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในประเทศญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญด้านการส่องกล้องระบบทางเดินอาหารและการแปลผลลักษณะผิวเยื่อบุของระบบทางเดินอาหาร โดยเฉพาะลักษณะผิวของติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ (Image Enhanced Endoscopy ) โดยมี ศาสตราจารย์ นพ.ยาซูชิ ซาโน่ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลซาโน่ และผู้อำนวยการสถาบันส่องกล้องระบบทางเดินอาหาร ที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในประเทศญี่ปุ่น เป็นผู้คิดค้นวิธีการจำแนกเนื้อเยื่อบุผิว เพื่อการวินิจฉัยลักษณะของติ่งเนื้อลำไส้ใหญ่ (colonic polyp) เป็นที่ยอมรับของแพทย์ทางตะวันตก
โรงพยาบาลสมิติเวช ได้นำ 2 เทคนิคซาโน่ จากญี่ปุ่น เข้ามายกระดับมาตราฐานการรักษา ได้แก่
- เทคนิคการส่องกล้อง NBI (Narrow Band Image) ที่ใช้เพื่อ ช่วยวินิจฉัยความผิดปกติของติ่งเนื้อที่อาจกลายเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ แม้ก้อนเนื้อยังไม่นูนขึ้นมาได้เร็วกว่าวิธีการส่องกล้องแบบเดิม ถึง 2 เท่า เข้าถึงสาเหตุของปัญหาได้ตรงจุด เพื่อให้ผู้ป่วยปลอดภัยจากมะเร็งลำไส้ใหญ่
- พร้อมเทคนิค ESD (Endoscopic Submucosal Dissection) การผ่าตัดผ่านกล้องตัดก้อนเนื้อขนาดใหญ่แบบไร้แผลได้ในขั้นตอนเดียว โดยไม่ต้องเปิดหน้าท้อง สำหรับการรักษาติ่งเนื้อในลำไส้ใหญ่ และมะเร็งกระเพาะอาหารระยะเริ่มต้น
ที่สำคัญสถาบันโรคตับ และระบบทางเดินอาหาร ยังเป็นโรงพยาบาลเอกชนเพียงไม่กี่แห่งที่สามารถผ่าตัดปลูกถ่ายตับ แก่ผู้ป่วยโรคตับได้ โดยอัตราความสำเร็จในการปลูกถ่ายตับ สูงถึง 90% ซึ่งผู้ป่วยสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติดังเดิม และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

นอกจากนี้สถาบันโรคตับ และระบบทางเดินอาหารยังครบครันด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัยสำหรับการตรวจรักษาระบบทางเดินอาหารและตับแบบครบวงจร ให้บริการตรวจวินิจฉัยโรคที่รวดเร็ว แม่นยำ เชื่อถือได้ พร้อมทั้งโรคอื่นๆ อาทิ
- การติดเชื้อ โรคจากพิษสุรา
- ตับแข็ง
- ภาวะไขมันคั่งสะสมในตับ
- ตับอ่อนอักเสบ
- นิ่วในถุงน้ำดี
- มะเร็งกระเพาะอาหาร
- มะเร็งลำไส้ใหญ่
และอื่นๆ โดยใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัย ครบวงจร และมีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านโดยมีประสบการณ์ทั้งในและต่างประเทศสถาบันดังกล่าวตั้งอยู่ที่บริเวณชั้น 1 ของอาคารโรงพยาบาลญี่ปุ่น สมิติเวช สุขุมวิท โดยมีแพทย์เฉพาะทางประจำ 11 คน พยาบาล 15 คน รวมทั้งมีห้องตรวจโรค 13 ห้อง ห้องส่องกล้อง 5 ห้อง และห้องพักฟื้น 10 ห้อง
สถาบันโรคตับและทางเดินอาหารให้บริการแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะผู้ป่วยชาวญี่ปุ่นซึ่งเป็นผู้ป่วยชาวต่างชาติกลุ่มใหญ่ที่สุด โดยในแต่ละปีสมิติเวชให้บริการแก่ผู้ป่วยชาวญี่ปุ่นมากถึง 135,000 คน หรือประมาณวันละ 400 คนโดยเฉลี่ย ทำให้สมิติเวชเป็นโรงพยาบาลเอกชนนอกประเทศญี่ปุ่นที่ให้บริการชาวญี่ปุ่นมากที่สุด
โดยที่สมิติเวชได้เริ่มเปิดบริการศูนย์การแพทย์เฉพาะสำหรับชาวญี่ปุ่น เมื่อเดือนตุลาคม 2553 โดยมีล่ามภาษาญี่ปุ่น และเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ที่สามารถพูดภาษาญี่ปุ่นได้คอยให้บริการ พร้อมให้การรักษาและพักฟื้นในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความเอาใจใส่ ซึ่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญเป็นอย่างมากที่จะทำให้ผู้ป่วยกลับมาแข็งแรงได้ในเร็ววัน โดยสมิติเวชให้ความสำคัญในเรื่องนี้จึงได้จัดให้มีพยาบาลประจำตัวให้แก่ผู้ป่วยเหล่านี้ทุกคน พยาบาลผู้ให้การดูแลผู้ป่วยที่มารับการรักษาที่สมิติเวช มีความเข้าใจในแต่ละเคสอย่างลึกซึ้ง และตระหนักว่าการดูแลผู้ป่วยมีความละเอียดอ่อนและสำคัญมากเพียงใด
