เป็นความเชื่อที่ผิดว่า เมื่อแก่ตัวลงร่างกายก็จะต้องการอาหารน้อยลง ในทุกช่วงอายุเรายังต้องการพลังงานอย่างน้อย 30-35 กิโลแคลลอรี/น้ำหนักตัวเป็นกก./วัน เป็นพื้นฐาน และต้องการโปรตีนอย่างน้อย 0.8-1.2 กรัม/น้ำหนักตัวเป็น กก./วัน ในการรักษาขนาดและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ แต่ผู้สูงอายุส่วนใหญ่มีแนวโน้มจะรับประทานอาหารได้น้อยลง เนื่องจาก
- ระบบย่อยอาหารทำงานช้าลง ทำให้ท้องอืดเฟ้อง่าย
- ปัญหาช่องปากและฟัน ทำให้เคี้ยวอาหารได้ไม่ละเอียด ไม่สามารถรับประทานอาหารที่ชอบได้
- ปัญหาการกลืน กลืนติด สำลักบ่อย อาจทำให้กินน้อยลง
- การดื่มน้ำน้อย ทำให้ท้องผูก
- ขาดการขยับเขยื้อนและการออกกำลังกาย ทำร่างกายเผาผลาญพลังงานน้อยลง และท้องผูก
- ภาวะเครียด ซึมเศร้า หรือโรคทางสมองอื่นๆ เช่น สมองเสื่อม โรคหลอดเลือดสมองตีบ / แตก โรคพาร์คินสัน ทำให้ความรู้สึกอยากอาหารเปลี่ยนแปลงไป
- การรับประทานทานยาบางชนิด อาจมีผลข้างเคียงทำให้น้ำลายแห้ง คลื่นไส้ หรือเบื่ออาหารได้
ดังนั้นควรค้นหาและแก้ไขสาเหตุต่างๆ ที่ทำให้ผู้สูงอายุรับประทานน้อย และปรับอาหารให้เป็นอาหารที่อ่อนนุ่ม เคี้ยวง่าย กลืนง่าย อาจใช้การหั่น สับ หรือการปั่นให้อาหารชิ้นเล็ก อาหารที่แข็งหรือมีกากใยมาก อาจเปลี่ยนวิธีปรุงเป็นการนึ่ง ตุ๋น ต้ม หรือปั่นอาหารให้นิ่ม เพื่อช่วยให้ผู้สูงอายุได้รับวิตามินและกากใยอาหารอย่างพอเพียง
โปรตีนควรเลือกประเภทที่ย่อยง่าย เช่น เนื้อปลา ไข่ขาว หรือ นม โยเกิร์ต เต้าหู้ เลี่ยงการปรุงอาหารรสชาติหวาน มัน เค็มจัด ลดการดื่มน้ำหวาน แอลกอฮอล์ และดื่มน้ำสะอาดให้พอเพียงอย่างน้อย 1-1.5 ลิตรต่อวัน