ในปัจจุบัน จะเห็นว่าคนไทยหันมาบริโภคสมุนไพรและวิตามินกันมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงระบาดเป็นวงกว้างและยังควบคุมไม่ได้แบบนี้ ส่งผลให้สมุนไพรไทยอย่างฟ้าทะลายโจรและกระชายขาว ถึงกับขาดตลาดเลยทีเดียว นั่นก็เพราะมีคนจำนวนมากเชื่อว่า การบริโภคสมุนไพรและวิตามินต่างๆ จะช่วยบำรุงร่างกายให้แข็งแรงและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้ดี แต่จริงๆ แล้วการรับประทานสมุนไพรและวิตามินในปริมาณที่มากเกินไปหรือต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานาน กลับไม่ได้ส่งผลดีอย่างที่เราหวัง หนำซ้ำยังเป็นการสร้างปัญหาให้กับตับอย่างคาดไม่ถึงอีกด้วย
สมุนไพรถูกนำมาใช้ในการรักษาโรคและเป็นอาหารเสริมบำรุงร่างกายอย่างแพร่หลาย เพราะคนทั่วไปคิดว่าสมุนไพรเป็นพืช จึงไม่น่าจะมีพิษต่อร่างกาย แต่ในความเป็นจริงแล้ว สมุนไพรอาจก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกายได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน ได้แก่
วิตามิน มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและควบคุมการทำงานของอวัยวะต่างๆ ให้เป็นไปตามปกติ ซึ่งแหล่งที่มาของวิตามินโดยทั่วไป คือ อาหาร และจากกระบวนการผลิตภายในร่างกาย ในทางตรงกันข้าม หากร่างกายได้รับวิตามินบางชนิดไม่เพียงพอ ก็อาจส่งผลให้เกิดการเจ็บป่วยได้ ทำให้บางคนพยายามหลีกเลี่ยงอาการเจ็บป่วยนั้นด้วยการเพิ่มแหล่งวิตามินให้กับร่างกาย เช่น การรับประทานอาหารเสริม รวมถึงวิตามินแบบอัดเม็ด อย่างไรก็ตาม หากร่างกายได้รับวิตามินมากเกินไปหรือใช้ผิดวิธี ก็อาจส่งผลเสียได้มากมายเช่นกัน
ตับ จัดเป็นอวัยวะที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในร่างกาย ทำหน้าที่ในการสร้างกลูโคส กรดอะมิโน ไขมัน และโปรตีนที่ช่วยให้เลือดแข็งตัว รวมถึงกำจัดสารพิษและของเสียต่างๆ ออกจากร่างกาย และถึงแม้ว่าตับจะสามารถฟื้นฟูตัวเองได้ แต่ถ้าหากทำงานหนักเกินไปหรือมีความผิดปกติเรื้อรังเกิดขึ้น ก็อาจส่งผลให้ตับถูกทำลาย และลุกลามเป็นอันตรายถึงชีวิตได้
ซึ่งปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพของตับส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราเอง เช่น การดื่มแอลกอฮอล์ การเผชิญกับสารเคมีหรือสารพิษเป็นประจำ ภาวะอ้วนลงพุง รวมถึงการกินยา วิตามิน หรือสมุนไพรที่มากเกินไปหรือติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ซึ่งมีผลทำให้ตับต้องทำงานหนักมากขึ้น และถ้าไม่สามารถขับของเสียออกมาได้ทัน ก็อาจก่อให้เกิดสารตกค้างในร่างกาย และทำลายเนื้อตับได้
โรคตับ เป็นโรคที่ทำให้มีอัตราการเสียชีวิตติด 1 ใน 10 ของสาเหตุการเสียชีวิตของคนไทย ดังนั้น การตรวจสุขภาพตับเป็นประจำ จะช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงของโรคได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงดังต่อไปนี้
การตรวจสุขภาพตับด้วยเครื่องไฟโบรสแกน (FibroScan) เป็นเทคโนโลยีการตรวจหาภาวะพังผืดในเนื้อตับ และตรวจวัดปริมาณไขมันสะสมในตับ โดยที่ผู้เข้ารับการตรวจไม่ต้องเจ็บตัว ช่วยลดความเสี่ยงจากภาวะแทรกซ้อน และสามารถตรวจซ้ำได้บ่อยเท่าที่ต้องการ โดยใช้เวลาเพียง 10 นาทีเท่านั้น
ผลจากการตรวจไฟโบรสแกน สามารถช่วยประเมินระดับความรุนแรงของภาวะตับแข็ง รวมถึงติดตามผล และช่วยให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลที่ได้จะเป็นค่าความแข็งของตับและค่าปริมาณไขมันสะสมในตับ โดยแพทย์จะแปลผลที่ได้ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการรักษาต่อไป
การเตรียมตัวก่อนตรวจสุขภาพตับ ควรงดน้ำ อาหารและเครื่องดื่มให้พลังงานอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนตรวจเลือด และตรวจด้วยเครื่องไฟโบรสแกน สำหรับหญิงตั้งครรภ์ และผู้ป่วยที่ใส่เครื่องมือแพทย์ที่ฝังในร่างกาย เช่น เครื่องกระตุ้นหัวใจ หรือการฝังแร่กัมมันตรังสี รวมถึงผู้ป่วยที่มีน้ำในช่องท้อง ไม่แนะนำให้ตรวจด้วยวิธีนี้
แม้ผลกระทบจากการใช้สมุนไพรและวิตามินจะไม่รุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิต แต่การบริโภคในปริมาณที่มากเกินไปและต่อเนื่องยาวนาน ก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ โดยเฉพาะสุขภาพตับ ดังนั้น ถ้าจำเป็นต้องใช้ ไม่ว่าจะเพื่อรักษาโรคหรือบำรุงร่างกาย แนะนำว่าให้ศึกษาหาความรู้ให้ดีก่อน หรือสามารถสอบถามรายละเอียดการใช้สมุนไพรและวิตามินเหล่านี้จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน และที่สำคัญ ควรหยุดใช้ทันทีเมื่อมีอาการไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น
สมัครสมาชิกเพื่อจัดเก็บข้อมูลของคุณสำหรับการนัดหมายครั้งต่อไป
มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว? เข้าสู่ระบบที่นี่