สาววัยทอง มักประสบกับปัญหาสุขภาพที่คืบคลานเข้ามาในชีวิตเสมือนภัยเงียบ ซึ่งหากทำความเข้าใจกับโรคและ รู้จักการป้องกันเบื้องต้น รวมถึงการเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงที อาจช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบา หรือบางรายอาจหายสนิทก็ได้
โรคยอดฮิตในหมู่คุณแม่ผู้รักการรับประทานและไม่มีเวลาออกกำลังกาย เป็นโรคที่ไม่แสดงอาการแน่ชัดจนกว่าจะไปตรวจสุขภาพ แล้วพบว่ามีค่าน้ำตาลในเลือดสูงเกินปกติ ทั้งนี้ผู้เป็นเบาหวานส่วนใหญ่มักตรวจพบโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมาด้วย เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิต ไขมันในเส้นเลือด และโรคไต ดังนั้นหากมีปัจจัยเสี่ยง เช่น อ้วนลงพุง หรือมีกรรมพันธุ์เป็นโรคเบาหวาน รวมทั้งมีอาการเหล่านี้ ควรพบแพทย์เพื่อตรวจคัดกรองอย่างละเอียด เพื่อรับการรักษาอย่างถูกวิธี
ผู้ที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นโรคความดันโลหิตสูงก็ต่อเมื่อมีความดันโลหิต (ตัวบน / ตัวล่าง) มากกว่าหรือเท่ากับ 140/90 มิลลิเมตรปรอท (mmHg) ตลอดเวลา แม้ในระยะพักผ่อนปกติ
จากข้อมูลงานวิจัยใหม่ๆ พบว่าความดันโลหิตที่สูงขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย เป็นความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือดต่างๆ เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้การตรวจวัดความดันโลหิตหากพบว่าความดันสูงผิดปกติ ควรทำการตรวจหลายๆ ครั้ง โดยกำหนดเวลาการตรวจให้ตรงกันทุกวัน เพื่อยืนยันว่าค่าความดันโลหิตปกติในชีวิตประจำวัน ที่ถูกต้อง หากพบว่าค่าเฉลี่ยค่อนข้างสูงควรพบแพทย์เพื่อรับการรักษา เนื่องจากโรคความดันโลหิตสูงถือเป็นภัยเงียบที่ผู้ป่วยมักไม่มีอาการใดๆ เลย แต่อวัยวะภายในต่างๆ เสื่อมสภาพลงเรื่อยๆ จนกระทั่งอวัยวะถูกทำลายไปมากแล้ว หรือเริ่มมีอาการแสดง เช่น เจ็บหน้าอกจากโรคหัวใจ อัมพฤกษ์จากโรคหลอดเลือดสมอง ตัวบวมปัสสาวะออกน้อยจากโรคไตวาย ฯลฯ ซึ่งเป็นภาวะที่ยากจะฟื้นฟูอวัยวะเหล่านั้น ให้กลับมาเป็นปกติได้อีก
หากมีอาการแขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก ชาครึ่งซีก ปากเบี้ยว กลืนลำบาก พูดไม่ออก ฟัง ไม่เข้าใจภาษา เห็นภาพซ้อน เดินเซ ตามัว ทรงตัวไม่ได้ ปวดศีรษะอย่างรุนแรงแบบไม่เคยเป็นมาก่อน โดยเป็นแบบปัจจุบันทันด่วน เป็นในทันทีทันใด ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณอันตรายของโรคหลอดเลือดสมอง ซึ่งเกิดจากภาวะเลือดไปเลี้ยงสมองลดลง เกิดการบาดเจ็บต่อเนื้อสมอง ทำให้การทำงานของสมองเกิดความผิดปกติหรือสูญเสียไป ปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสให้เป็นโรคหลอดเลือดสมองมากขึ้น ได้แก่
สมองเสื่อมในผู้สูงวัย เกิดจากความผิดปกติในการทำงานของสมองหลายๆ ด้านแบบค่อยเป็นค่อยไป ส่งผลให้มีการเสื่อมของระบบความจำ ความเข้าใจเหตุผล การคิดวิเคราะห์ และการควบคุมตนเอง
สาเหตุของโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุที่พบบ่อยที่สุด คือ โรคอัลไซเมอร์ ซึ่งในปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้น การดูแลทางการแพทย์ จึงต้องเน้นการปรับสภาพแวดล้อมของผู้ป่วยให้มีความปลอดภัย รวมถึงช่วยเหลือญาติหรือผู้ดูแลในการรับมือกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของผู้ป่วย
จะเห็นได้ว่าโรคร้ายภัยเงียบทั้ง 4 นี้ มีปัจจัยเสี่ยงส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมการรับประทานอาหาร การออกกำลังกาย การดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ รวมถึงความเครียด ดังนั้นการป้องกันโรคที่ดีขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ชีวิตให้ถูกสุขลักษณะ ควบคุมน้ำหนัก หมั่นออกกำลังกาย งดเหล้าบุหรี่ และทำจิตใจให้สดใส ทั้งนี้ยังควรตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี หรือตามแพทย์สั่ง เพื่อชีวิตที่มีคุณภาพและสุขภาพที่ดีตลอดไป
สมัครสมาชิกเพื่อจัดเก็บข้อมูลของคุณสำหรับการนัดหมายครั้งต่อไป
มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว? เข้าสู่ระบบที่นี่