แคลเซียม หรือ หินปูนหัวใจ อาจเกาะอยู่ที่ผนังหลอดเลือด ที่ลิ้นหัวใจ หรือที่เยื่อหุ้มหัวใจ ที่ควรระวังคือหินปูนที่เกาะที่ผนังหลอดเลือดที่นำเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ ซึ่งเกิดจากการเสื่อมสภาพของหลอดเลือดแดง และจะเกิดขึ้นก่อนเกิดอาการของโรคหัวใจนานหลายปี
จากการศึกษาพบว่าปริมาณแคลเซียมนี้สามารถทำนายโอกาสเกิดโรคหัวใจขาดเลือดได้ นอกเหนือจากปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ เช่นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หรือการสูบบุหรี่ ภาวะแคลเซี่ยมเกาะที่หลอดเลือดนี้ จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันจากหลอดเลือดอุดตันเฉียบพลัน
สมาคมโรคหัวใจแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาได้แนะนำว่า ผู้ที่สมควรได้รับการตรวจแคลเซียมในหลอดเลือดหัวใจ คือ
จากคำแนะนำของสมาคมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญการรักษาเบาหวานในสหรัฐอเมริกา ผู้ป่วยเบาหวาน ผู้ป่วยที่มีอายุมาก และผู้ป่วยโรคไตวายที่ไม่สามารถตรวจหัวใจด้วยการเดินสายพานตามวิธีมาตรฐานได้นั้น การตรวจแคลเซียมในหลอดเลือด ถือว่าเป็นมาตรฐานการตรวจหัวใจที่ดี
เนื่องจากผลการตรวจแคลเซียมจะช่วยให้เราทำนายโอกาสเกิดโรคหัวใจ และ การเสียชีวิตจากโรคหัวใจ และยังช่วยเป็นข้อมูลประกอบการเลือกมาตรการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจตีบในผู้ป่วยแต่ละคนได้อย่างเหมาะสม คะแนนแคลเซี่ยมที่หัวใจสูงหมายความว่ามีความเสี่ยงมาก ซึ่งต้องพิจารณาให้ยาทันที
เพราะการป้องกันโรคหัวใจนี้ สามารถทำได้ง่ายๆ และทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะเสี่ยงมากหรือน้อย เช่น
ด้วยเครื่องเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ ความเร็วสูง 128 slice และไม่ต้องฉีดสีสวนหัวใจ ภาพที่ได้จากการตรวจวิธีนี้จะมีความคมชัดเนื่องจากเครื่องมีความเร็วในการจับภาพสูงมาก สามารถจับภาพขณะที่หัวใจเต้นได้ดี และจะบอกถึงปริมาณหินปูนที่สะสมอยู่ในผนังหลอดเลือดหัวใจได้ แม้ในปริมาณที่น้อย จึงเป็นการตรวจที่หาภาวะความเสี่ยงของการเป็นโรคหลอดเลือดหัวใจเริ่มต้นในคนปกติได้เป็นอย่างดี
เครื่องเอ็กซ์เรย์นี้ จะวัดปริมาณหินปูนเป็นตัวเลข เด็กแรกเกิด ที่มีหลอดเลือดปกติ ค่าจะเป็นศูนย์ เมื่ออายุมากขึ้นก็อาจจะพบหินปูนได้บ้าง แต่ ไม่ควรเกิน 200 – 400 ถ้าเกิน 400 จะยิ่งมีความเสี่ยงสูงมากๆ
สมัครสมาชิกเพื่อจัดเก็บข้อมูลของคุณสำหรับการนัดหมายครั้งต่อไป
มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว? เข้าสู่ระบบที่นี่