มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับสี่ของผู้หญิงทั่วโลก อย่างไรก็ตาม มะเร็งปากมดลูกสามารถรักษาให้หายขาดได้หากได้รับการวินิจฉัยตั้งแต่ระยะแรกและได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
นอกจากการฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกเมื่ออายุ 9-14 ปี ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสฮิวแมนแพพพิลโลมา (Human papillomavirus- HPV) สาเหตุการเกิดมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งอื่นๆ การตรวจคัดกรองตั้งแต่อายุ 25 ปี ยังช่วยให้สามารถตรวจพบโรคมะเร็งปากมดลูกได้
ดังนั้นการเข้ารับการตรวจคัดกรองโรคด้วยการตรวจภายใน จึงมีความสำคัญสำหรับผู้หญิง ซึ่งมีอวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานที่มีความสำคัญและซับซ้อน เชื่อมโยงระบบสืบพันธุ์หลายส่วน ทั้งปากช่องคลอด ช่องคลอด ปากมดลูก มดลูก ปีกมดลูก และรังไข่
เมื่อพูดถึงการตรวจภายใน (Pelvic Exam) ผู้หญิงส่วนใหญ่มักรู้สึกเขินอาย โดยเฉพาะสาวโสดที่ยังไม่เคยแต่งงาน หรือมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งผู้ที่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ อาจไม่มีความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก แต่การตรวจภายในสามารถตรวจเช็กความผิดปกติของอวัยวะในอุ้งเชิงกราน ซึ่งส่วนใหญ่มักไม่แสดงอาการ หากไม่การอักเสบรุนแรง ดังนั้นการตรวจภายในจึงเป็นการป้องกันโรคต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
เพื่อให้การตรวจภายในมีประสิทธิภาพมากที่สุด ควรเตรียมตัวก่อนตรวจภายใน ดังนี้
โดยทั่วไปหลังการตรวจภายใน สามารถทราบผลภายในวันเดียว หากผลเป็นปกติก็สามารถกลับบ้านได้ทันที หากทำการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกไม่ว่าจะด้วยวิธีแปปสเมียร์ หรือ ตินเพร็พ (Thin Prep) หรือ การตรวจหาเชื้อไวรัส HPV ด้วยวิธีการตรวจ DNA ต้องรอผลประมาณ 1-2 สัปดาห์
กรณีตรวจพบสิ่งผิดปกติ แพทย์อาจทำการนัด เพื่อเข้าตรวจภายในด้วยวิธีอื่นตามความเหมาะสมต่อไป
ปัจจุบันข้อมูลทางวิชาการชี้ชัดแล้วว่าสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งปากมดลูก คือการติดเชื้อไวรัสฮิวแมนแพพพิลโลมา (Human papillomavirus) หรือ HPV โดยการมีเพศสัมพันธ์ ปกติร่างกายสามารถกำจัดไวรัสฮิวแมนแพพพิลโลมาได้เอง แต่บางครั้งร่างกายก็ไม่สามารถกำจัดเชื้อได้ โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูง (HPV สายพันธุ์ 16 และ 18)
อย่างไรก็ตาม มะเร็งปากมดลูกสามารถป้องกันและรักษาให้หายขาดได้ หากตรวจพบได้เร็วในระยะก่อนเป็นมะเร็ง แต่สาเหตุสำคัญที่ยังพบผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูกจำนวนมากในหญิงไทย คือผู้หญิงส่วนใหญ่มักปฏิเสธการตรวจภายในเนื่องจากความอาย หรือไม่กล้าเข้ารับการตรวจ
มีขั้นตอนการตรวจเช่นเดียวกันกับการตรวจภายใน โดยแพทย์จะใช้อุปกรณ์ขนาดเล็กเก็บตัวอย่างเซลล์จากปากมดลูก จากนั้นนำเซลล์ใส่ลงในขวดเก็บตัวอย่างที่มีน้ำยา Thinprep ทำหน้าที่แยกเซลล์ออกจากสิ่งปนเปื้อนอื่น ๆ และทำให้เซลล์มีความหนาแน่นมากขึ้น ก่อนนำไปตรวจทางเซลล์วิทยา นอกจากนี้ยังแยกเซลล์ที่เก็บได้ส่งตรวจด้วยน้ำยา HPV DNA Testing ซึ่งเป็นการตรวจในระดับโมเลกุล เพื่อหาเชื้อ HPV ความเสี่ยงสูง
หากผลการตรวจหาเชื้อ HPV และการตรวจเซลล์มะเร็ง Thinprep ให้ผลเป็นลบทั้งคู่ จึงสามารถเว้นการตรวจออกไปเป็นทุก 3-5 ปี แทนการตรวจประจำทุกปี ด้วยวิธีแปปสเมียร์ หรือ Thinprep เพียงอย่างเดียว
การป้องกันโรคย่อมดีกว่าการรักษา การตรวจภายในไม่ได้เป็นเรื่องน่ากลัวอย่างที่ใครหลายคนคิด หากเทียบกับประโยชน์ที่จะได้รับ ดังนั้นผู้หญิงทุกคนที่มีอายุ 25 ขึ้นไป โดยเฉพาะผู้มีความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูก ควรเข้ารับการตรวจภายใน รวมถึงตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ด้วยวิธีการตรวจ Thinprep Plus HPV DNA Testing ซึ่งได้ผลแม่นยำ อีกทั้งหากตรวจไม่พบความเสี่ยงใดๆ ยังสามารถเว้นจากการตรวจทุกปีเป็นทุกๆ 3 ปี
สมัครสมาชิกเพื่อจัดเก็บข้อมูลของคุณสำหรับการนัดหมายครั้งต่อไป
มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว? เข้าสู่ระบบที่นี่