อาการปวดหลัง ปวดคอ เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในชีวิตประจำวัน เกิดขึ้นได้กับทุกเพศ ทุกวัย ทุกอาชีพ โดยเฉพาะผู้ที่นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ หรือต้องยกของหนักมากๆ เป็นประจำ หลายคนมักเข้าใจว่าเกิดจากภาวะออฟฟิศซินโดรม เพียงปรับอิริยาบถให้ถูกต้อง หยุดทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดอาการปวดหลังและรับประทานยา อาการปวดก็สามารถหายได้เอง แต่แท้จริงแล้วอาการปวดบางอย่าง อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าเป็นโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท
กระดูกสันหลัง เป็นกระดูกแกนกลางร่างกายในการรองรับน้ำหนักตัว มีลักษณะเป็นปล้องๆ ตั้งแต่คอถึงเอว โดยมีหมอนรองกระดูก ซึ่งเป็นเนื้อเยื่อลักษณะแผ่นกลม คั่นอยู่ในแต่ละชั้น ทำหน้าที่รับน้ำหนักของร่างกาย ช่วยปกป้องกระดูกจากกิจกรรมที่มีแรงกระแทก และมีความยืดหยุ่นขณะเคลื่อนไหว
ภายในหมอนรองกระดูกสันหลัง ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ เนื้อเยื่อด้านใน (Nucleus pulposus) ลักษณะคล้ายเจล ช่วยกระจายแรงของนํ้าหนักตัวที่ส่งผ่านมายังกระดูกสันหลังแต่ละข้อ ขณะที่ร่างกายเคลื่อนไหว และเนื้อเยื่อด้านนอก (Annulus fibrosus) มีความเหนียว ช่วยปกป้องเนื้อเยื่อด้านใน และทำให้ข้อต่อระหว่างกระดูกสันหลังมีความมั่นคงแข็งแรง
ภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท เกิดจากการที่หมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนออกไปจากขอบเขตปกติของแนวกระดูกสันหลัง ส่งผลให้ไปกดทับไขสันหลัง ซึ่งมีระบบประสาทที่มีหน้าที่รับความรู้สึก และควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ จึงเป็นสาเหตุของอาการปวด กล้ามเนื้ออ่อนแรง และอาการชา
โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท เกิดจากหลายสาเหตุ ดังนี้
โรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท แบ่งตามตำแหน่งของโพรงประสาท ดังนี้
เมื่อผู้ป่วยมาพบแพทย์ด้วยอาการปวดหลัง แพทย์จะทำการวินิจฉัย ดังนี้
แนวทางการรักษาด้วยการผ่าตัดภาวะหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท เป็นการเปิดโพรงประสาทออกบางส่วน เพื่อนำหมอนรองกระดูกที่แตกออกมา
คือสามารถคลายเส้นประสาทที่ถูกกดทับได้โดยทันที แก้ไขปัญหาอาการปวดร้าวลงขา ผู้ป่วยสามารถกลับไปเดินได้ ภายใน 1-2 วัน และปฏิบัติกิจวัตรประจำวันต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยระยะเวลานอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลประมาณ 2 วัน เท่านั้น
การผ่าตัดแบบแผลเล็ก สามารถทำได้ ดังนี้
หลังการผ่าตัด ผู้ป่วยควรพักฟื้นในโรงพยาบาลอย่างน้อย 24 - 48 ชม. เมื่อกลับบ้านแล้ว ควรปฏิบัติ ดังนี้
การผ่าตัดหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท ผู้ป่วยมักเกิดความวิตกกังวลถึงผลลัพธ์ของการรักษา กลัวว่าการผ่าตัดจะเป็นอันตราย รวมถึงหลังผ่าตัดจะมีความเสี่ยงเป็นอัมพาต แต่ด้วยเทคโนโลยีการผ่าตัดหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาทได้พัฒนาไปจากในอดีตมาก ทั้งขนาดของแผลผ่าตัด มาตรฐานความปลอดภัย รวมถึงแพทย์ผู้ชำนาญ ที่สามารถวินิจฉัยได้อย่างแม่นยำ ทำให้ผู้ป่วยสามารถลุกเดินได้เร็วขึ้น และเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยลงกว่าเดิมมาก
ดังนั้น การเลือกแพทย์หรือสถานพยาบาลเพื่อทำการรักษาโรคหมอนรองกระดูกสันหลังเคลื่อนทับเส้นประสาท จึงมีความสำคัญอย่างมาก แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการรักษาโรคเฉพาะทาง และมีประสบการณ์สูงจะสามารถวินิจฉัยโรคได้อย่างถูกต้อง และเลือกการรักษาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย เพื่อลดอาการแทรกซ้อนและผลข้างเคียงจากการผ่าตัด รวมถึง การทำงานร่วมกันระหว่างทีมแพทย์สหสาขาวิชา ไม่ว่าจะเป็น ศัลยแพทย์กระดูกสันหลังและข้อ วิสัญญีแพทย์ แพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นฟูร่างกายได้เร็วขึ้นหลังการผ่าตัด
หากมีอาการปวดคอ หลัง และเอวเรื้อรัง มีความรุนแรงหรือร่วมกับอาการของระบบประสาทที่ผิดปกติ เช่น ปวดร้าวลงแขนหรือลงขา อาการชาปลายมือปลายเท้า หรือมีอาการอ่อนแรงของมือหรือขา อาจเป็นอาการแสดงของโรคหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาท ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาอย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
สมัครสมาชิกเพื่อจัดเก็บข้อมูลของคุณสำหรับการนัดหมายครั้งต่อไป
มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว? เข้าสู่ระบบที่นี่