รู้โรค รู้เรื่องวัคซีน Moderna

รู้โรค รู้เรื่องวัคซีน Moderna

รู้โรค รู้เรื่องวัคซีน Moderna

โรคโควิด-19 คืออะไร

  • เป็นโรคติดเชื้อทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัสซาร์สโควี-2 (SARS-CoV-2)  
  • การติดต่อจากการสัมผัสกับละอองฝอยของน้ำลาย เสมหะ น้ำมูก ของผู้ติดเชื้อ ระยะเวลาตั้งแต่ได้รับเชื้อจนถึงเริ่มมีอาการป่วยประมาณ 2-14 วัน 

อาการของโรค

  • มีไข้หรือวัดอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 37.5 องศาเซลเซียส 
  • อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ มีน้ำมูก เจ็บคอ ไอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส  
  • หายใจเร็ว หายใจเหนื่อย
  • ตาแดง ผื่น ถ่ายเหลว  
  • อาจรุนแรงจนมีอาการปอดอักเสบ และอาจเสียชีวิตได้ 
  • ผู้ที่เสี่ยงจะมีอาการรุนแรงได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีภาวะอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตเรื้อรัง โรคมะเร็ง หรือโรคทางเดินหายใจเรื้อรัง 

วัคซีน Moderna คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร

Moderna คือ วัคซีนชนิด mRNA ที่ใช้เพื่อป้องกันโรคโควิด-19 ที่เกิดจากเชื้อไวรัสซาร์สโควี-2 ในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป 

สารออกฤทธิ์ในวัคซีน Moderna คือ messenger RNA (mRNA) ที่ได้รับการถอดรหัสพันธุกรรมของเชื้อไวรัสซาร์สโควี-2 ในการผลิตโปรตีนชนิดหนาม (Spike protein) โดย mRNA จะฝังตัวอยู่ใน SM-102 lipid โดย mRNA ในวัคซีนจะสั่งให้เซลล์ในร่างกายสร้างโปรตีนหนาม (spike protein) ที่เหมือนกับโปรตีนหนามในเชื้อไวรัส ซึ่งเซลล์ในร่างกายจะสร้าง แอนติบอดี้ขึ้นมาเพื่อต่อต้านโปรตีนหนามของเชื้อไวรัสซึ่งจะช่วยป้องกันโรคโควิด-19 

***เนื่องจากวัคซีน Moderna ไม่มีส่วนประกอบของตัวเชื้อไวรัส จึงไม่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 ต่อร่างกาย 

วิธีการฉีดวัคซีน Moderna 

ฉีดวัคซีนเข้ากล้ามเนื้อที่บริเวณไหล่ 2 ครั้ง โดยเข็มที่สองจะฉีดห่างจากเข็มแรก 3-4 สัปดาห์  

คำแนะนำและข้อควรทราบก่อนการฉีด Moderna

ห้าม ฉีดวัคซีนในกลุ่มต่อไปนี้ 

  • ผู้ที่มีอาการแพ้ ตัวยาสำคัญหรือส่วนประกอบอื่นใดในวัคชีน (ผู้ที่มีประวัติแพ้ สารเติมเต็มใต้ผิวหนังเพื่อความสวยงาม  ) 
  • ผู้ที่แพ้สารโพลีเอธิลีน ไกลคอล (Polyethylene Glycol: PEG) ซึ่งเป็นส่วนผสมที่มักอยู่ในยาและเครื่องสำอางหลายชนิด รวมถึงในวัคซีน Moderna ด้วย 
  • ผู้ที่แพ้สารพอลิซอร์เบต (Polysorbate) ซึ่งเป็นสารเคมีในยาและเครื่องสำอางที่มีคุณสมบัติคล้ายกับสารโพลีเอธิลีน ไกลคอลในวัคซีน Moderna มาก 

คำเตือนและข้อควรระวัง แจ้งบุคลากรทางแพทย์ผู้ดูแลการฉีดวัคซีนก่อนการรับวัคซีน Moderna ดังนี้ 

  • เคยมีประวัติการแพ้อย่างรุนแรง ที่อาจมีอันตรายต่อชีวิตภายหลังการได้รับวัคซีนชนิดอื่นๆ      
  • เคยมีประวัติการแพ้อื่น ๆ  
  • เป็นผู้มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือได้รับยากดภูมิคุ้มกัน  
  • เคยเป็นลมหลังจากได้รับการฉีดยา  
  • หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ หรือวางแผนจะตั้งครรภ์ หรือมารดาที่กำลังให้นมบุตร 
  • มีโรคประจำตัวขั้นรุนแรงที่ไม่สามารถควบคุมโรคได้  
  • ได้รับวัคซีนโควิด-19 ชนิดอื่นมาก่อนหน้านี้  
  • กังวล ที่เกี่ยวเนื่องกับการได้รับวัคซีนชนิดนี้ 
  • หรือรับประทานยาอื่นก่อนการฉีดวัคซีน และยาอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิผลของวัคซีนได้  

คำแนะนำในการสังเกตอาการผิดปกติหลังได้รับวัคซีน

  • ควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดที่สถานพยาบาลภายหลังการได้รับวัคซีนอย่างน้อย 30 นาที และควรสังเกตอาการต่อที่บ้าน 
  • หากมีอาการข้างเคียง ควรปรึกษาแพทย์ ก่อนการรับวัคซีนครั้งต่อไป  

อาการข้างเคียง 

  •  ริมฝีปาก หน้า หรือลำคอบวม 
  •  รู้สึกจะเป็นลม หรือมีอาการวิงเวียนศีรษะ 
  • ใจสั่นผิดปกติ หายใจถี่ หายใจไม่สะดวก 
  • มีผื่นขึ้น 

อาการข้างเคียงที่พบบ่อย** 

  • บวมแดงบริเวณรักแร้ ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดกล้ามเนื้อ ปวดข้อ 
  • อาการปวดหรือบวมแดงบริเวณตำแหน่งที่ฉีด รู้สึกอ่อนพลีย หนาวสั่น มีใข้ 

Remarks: **สามารถหายได้เองภายใน 2-3 วันหลังฉีด 

อาการข้างเคียงที่พบได้น้อย

Covid - Arm  

  • อาการบวม แดง คัน และเจ็บบริเวณที่ฉีดวัคซีนหรือใกล้เคียงร่วมด้วยได้ เช่น ไข้ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะ เป็นต้น  
  • มักเกิดอาการภายใน 7 วันหลังรับวัคซีน ส่วนใหญ่หายได้เอง  
  • พบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย  
  • ประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการ หรือใช้ยาทากลุ่มสเตียรอยด์หรือยากินแก้แพ้ได้  

การอักเสบของกล้ามเนื้อหัวใจหรือเยื่อหุ้มหัวใจ

  • อาการ  ได้แก่ เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก หายใจเหนื่อยหรือเจ็บเวลาหายใจ ใจสั่น เป็นลม  
  • มักพบหลังจากการฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ภายใน 7 วัน มีส่วนน้อยที่พบภายใน 30 วัน  
  • มักพบในวัยรุ่นและผู้ใหญ่อายุน้อย
  • เกิดประมาณ 16 รายใน 1 ล้านโดสของการฉีดวัคซีน  
  • ส่วนใหญ่อาการไม่รุนแรง ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาหรือการพักผ่อน เช่น ยาต้านการอักเสบ NSAIDs ยา สเตียรอยด์ รวมถึงยา colchicine ผู้ป่วยหายเป็นปกติได้เกือบทั้งหมด  

ปฏิกิริยาแพ้รุนแรง 

  • มีผื่นทั้งตัว หน้าบวม คอบวม หายใจลำบาก ใจสั่น วิงเวียน หรืออ่อนแรง หรือมีอาการแขนขาอ่อนแรง  

หากมีอาการรุนแรงจากการรับวัคซีนควรทำอย่างไร

  • รีบไปโรงพยาบาล หรือติดต่อโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด หรือ โทร 1669 เพื่อติดต่อสายด่วนสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เพื่อรับบริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน  

ผลต่อความสามารถในการขับขี่และการทำงานกับเครื่องจักร

  • ไม่มีหรือมีผลกระทบน้อยมากต่อความสามารถในการขับขี่ยานพาหนะ และการทำงานกับเครื่องจักร อย่างไรก็ตาม จึงควรพิจารณางดเว้นการขับขี่ยานพาหนะหรือใช้งานเครื่องจักรกลหากท่านมีอาการข้างเคียงหรือพบการผิดปกติ และใช้ความระมัดระวังตามความเหมาะสม   

วัคซีนโควิด-19 มีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงในทุกช่วงอายุ คณะกรรมการที่ปรึกษาด้านการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคสหรัฐฯ (ACIP) จึงยังคงแนะนำให้ฉีดวัคซีนตามเกณฑ์เดิม

วัคซีน Moderna กับเด็กและวัยรุ่น

คำแนะนำการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในเด็กและวัยรุ่น

  • สามารถฉีดได้ในเด็กอายุ 12-17 ปี  
  • ไม่ควรฉีดวัคซีน Moderna  พร้อมกับวัคซีนชนิดอื่น ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 14 วัน ยกเว้นการฉีดวัคซีนที่มีความจำเป็นเช่น วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าเมื่อเด็กถูกสัตว์กัด 
  • เด็กและวัยรุ่นหญิงที่มีประจำเดือน อยู่ในระยะหลังคลอด หรือให้นมบุตร สามารถฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ได้ 
  • เด็กและวัยรุ่นที่หายจากโรคโควิด-19 หรือโรคแทรกซ้อนจากโรคโควิด-19 และโรคคาวาซากิ (MIS-A หรือ MIS-C) ควรเว้นระยะการฉีดห่างจากวันที่ตรวจพบเชื้อ 1-3 เดือน  
  • ผู้ป่วยเด็กที่ได้รับการรักษาด้วยพลาสมา ควรได้รับวัคซีนทันทีเมื่อครบกำหนด 90 วัน 

ข้อควรระวัง

  1. เด็กและวัยรุ่นที่มีอาการแพ้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 อย่างรุนแรงภายหลังจากการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 หรือแพ้สารที่เป็นส่วนประกอบของวัคซีนอย่างรุนแรง ควรรับคำแนะนำจากแพทย์เพื่อพิจารณาเลื่อน หรือเปลี่ยนชนิดวัคซีนในเข็มที่ 2 
  2. หากเด็กและวัยรุ่นมีประวัติสัมผัสเสี่ยงใกล้ชิดกับผู้ป่วยโรคโควิด-19 ควรเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไป จนกว่าเด็กจะได้รับการตรวจยืนยันว่าไม่ติดเชื้อโรคโควิด-19 
  3. วัยรุ่นหญิงที่ตั้งครรภ์ควรเข้ารับการฉีดวัคซีนเมื่อมีอายุครรภ์มากกว่า 3 เดือนขึ้นไป 
คะแนนบทความ

มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว?