เด็กๆ ที่มีอาการเหน็บชาบ่อยๆ อาจไม่ได้เป็นเพียงร่างกายกำลังขาดวิตามินบี 1 เท่านั้น หากแต่เป็นสัญญาณเตือนว่า มีการอักเสบรุนแรงเกิดขึ้นกับระบบประสาทและการทำงานของหัวใจ ส่งผลให้เกิดโรคหัวใจ
วิตามินบี 1 หรือไทอามีน (Thiamine) มีหน้าที่กระตุ้นการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต โปรตีน และไขมัน ให้เป็นพลังงานของร่างกาย เพื่อใช้ในการเคลื่อนไหวและเสริมสร้างการเจริญเติบโต ทั้งนี้ยังมีส่วนสำคัญในการดูแลระบบประสาท และการทำงานของระบบหัวใจ โดยร่างกายจะสะสมวิตามินบี 1 ไว้ตามกล้ามเนื้อ สมอง และหัวใจ หากเกิดภาวะขาดวิตามิน ร่างกายจะค่อยๆ ใช้วิตามินที่สะสมไว้จนหมด ภายใน 1 เดือน อาการข้างเคียงจะเริ่มปรากฏ เช่น มีการเคลื่อนไหวผิดปกติ แขนขาอ่อนแรง หรือรุนแรงจนเป็นอัมพาต และเสี่ยงต่อการเสียชีวิต
การขาดวิตามินบี 1 ในระยะแรก อาจทำให้หัวใจเต้นช้าลง หากปล่อยไว้เป็นระยะเวลานานโดยไม่ได้รับการรักษาอาจเสี่ยงทำให้หัวใจล้มเหลว และเสียชีวิตในที่สุด
แพทย์จะทำการตรวจเลือดและปัสสาวะ เพื่อวินิจฉัยให้แน่ชัดว่าผู้ป่วยมีภาวะขาดวิตามินบี 1 หรือเกิดขึ้นจากภาวะแทรกซ้อนอันเนื่องมาจากโรคทางกายชนิดอื่น สังเกตปริมาณของวิตามินที่ถูกขับออกมา บางรายอาจมีการตรวจหาค่าเอนไซม์จากเม็ดเลือดแดง (Erythrocyte Transketolase Activity) ในช่วงก่อนและหลังให้วิตามิน หากพบว่าการขาดวิตามินแบบไม่รุนแรง แพทย์จะให้รับประทานวิตามินบี 1 ชนิดอาหารเสริม วันละ 20-30 มิลลิกรัม ติดต่อกันประมาณ 3 สัปดาห์
ผู้ที่เกิดภาวะหัวใจวาย แพทย์จะใช้การฉีดวิตามินบี 1 จำนวน 50-100 มิลลิกรัมเข้าสู่เส้นเลือดดำ เพราะตอบสนองได้ดีกว่า กรณีที่มีอาการทางประสาท ต้องฉีดเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 2 ครั้ง จนว่าอาการจะดีขึ้น และให้รับประทานวิตามินเสริมต่อเนื่องวันละ 20-30 มิลลิกรัม
เนื่องจากวิตามินบี 1 เป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเอง ต้องได้รับจากการรับประทานเท่านั้น อีกทั้งร่างกายยังสามารถสะสมไว้ในจำนวนจำกัด จึงจำเป็นต้องรับประทานอาหารที่มีวิตามินบี 1 เป็นประจำ
สมัครสมาชิกเพื่อจัดเก็บข้อมูลของคุณสำหรับการนัดหมายครั้งต่อไป
มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว? เข้าสู่ระบบที่นี่