จนมีคำถามบ่อยๆ ว่าต้องปรับเปลี่ยนการใช้มือข้างที่ถนัดของลูกหรือไม่ หรือปล่อยไปตามความถนัดของลูก เพราะกลัวว่าสิ่งประดิษฐ์ อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ที่ส่วนใหญ่ถูกคิดค้นและผลิตมาเพื่อรองรับแต่คนถนัดขวา ซึ่งอาจทำให้เด็กมีปัญหาในการดำเนินชีวิต แต่ในขณะเดียวกันข้างซ้ายก็สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ และสมัยนี้การถนัดซ้ายเป็นที่ยอมรับและไม่ได้เป็นปัญหามากนักในชีวิตประจำวัน หรือบุคคลโด่งดังในสังคมหลายคนก็ถนัดซ้าย
ทุกวันนี้คนถนัดซ้ายไม่ใช่เรื่องแปลกในสังคมอีกแล้ว
แต่ด้วยคนถนัดขวาทั้งโลกมีมากกว่าและเครื่องมือของใช้ส่วนใหญ่พัฒนาและผลิตขึ้นมาเพื่อคนถนัดขวา ทำให้คนถนัดซ้ายมีปัญหากับการใช้งานค่อนข้างมาก เช่น นาฬิกา เครื่องดนตรี ที่เปิดฝาขวดต่างๆ หรือแม้การเขียนด้วยมือซ้ายจะทำให้มือไปทับตัวอักษรแล้วเลอะหมึกตัวอักษรข้างหน้า
หรือถ้าเป็นเด็กโตขึ้นมาหน่อยก็อาจพบปัญหาจากการใช้เมาส์คอมพิวเตอร์ เพราะโดยมากเมาส์จะถูกออกแบบมาเพื่อคนที่ถนัดขวา จนในบางประเทศเห็นความสำคัญของเรื่องการใช้ชีวิตจากมือซ้ายจึงมีการรวมตัวจัดตั้งเป็นสมาคม และมีร้านค้าที่ผลิตสินค้าสำหรับคนถนัดซ้ายมากขึ้น เช่น ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นเจ้าแรกของโลกที่ผลิตสินค้าเพื่อคนถนัดซ้าย หรือในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นร้านที่ทั้งคนถนัดซ้ายและขวาไปเลือกดูสินค้าที่ออกแบบมาให้ได้เลือกกัน ยิ่งปัจจุบันสินค้าต่างๆ ก็มีคำแนะนำที่บอกว่าใช้ได้ทั้งคนถนัดซ้ายและขวาอีกด้วย
อย่างไรก็ตามการที่ เด็กถนัดซ้าย ถือเป็นเรื่องความถนัดตามธรรมชาติเฉพาะบุคคล ไม่ใช่ความผิดปกติแต่อย่างใด
จากสถิติพบว่าทั่วโลกมีคนถนัดขวาประมาณ 90% ขณะที่มีคนถนัดซ้ายประมาณ 10% ในการศึกษาที่ผ่านมาได้อธิบายถึงความถนัดของมนุษย์ว่าถูกกำหนดตามพันธุกรรม กระบวนการทำงานสมองควบคุมกล้ามเนื้อและระบบประสาทสัมผัส คนที่ถนัดมือขวา จะมีการทำงานควบคุมทักษะกล้ามเนื้อโดยสมองซีกซ้าย ส่วนคนที่ถนัดซ้ายจะมีการทำงานควบคุมกล้ามเนื้อของสมองซีกขวา ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่ไม่ผิดธรรมชาติ