ไวรัสตับอักเสบเอ คืออะไร

ไวรัสตับอักเสบเอ คืออะไร

ไวรัสตับอักเสบเอ คืออะไร

โรคไวรัสตับอักเสบเอ เกิดจากเชื้อไวรัสกลุ่ม picornavirus ทำให้เกิดการอักเสบแบบเฉียบพลันของตับ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงตับอักเสบรุนแรงมาก โดยทั่วไปอาการจะหายเป็นปกติภายใน 2 เดือน

ไวรัสตับอักเสบเอ อาการเป็นอย่างไร

อาการแสดง ได้แก่ (อาจไม่มีครบทุกอาการ)

  •  ไข้
  •  อ่อนเพลีย
  •  เบื่ออาหาร
  •  คลื่นไส้อาเจียน
  •  แน่นท้องใต้ชายโครงขวา
  •  ท้องร่วง
  •  ปัสสาวะสีน้ำตาลเข้ม
  •  และ มีอาการตัวเหลืองตาเหลืองที่เรียกว่าดีซ่าน

วัยเด็ก พบว่าเด็กที่อายุน้อยกว่า 6 ปีมักไม่มีอาการ วัยรุ่นขึ้นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ส่วนใหญ่จะมีอาการตับอักเสบเฉียบพลัน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคตับอักเสบเรื้อรังจากสาเหตุอื่นมาก่อน

ผู้ที่เคยติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ จะมีภูมิคุ้มกันตลอดชีวิตและจะไม่เป็นโรคนี้ซ้ำเดิมอีก

การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ ติดต่อมาจากทางใดได้บ้าง

การติดต่อมักเกิดจากการรับประทานอาหาร หรือ น้ำดื่ม ที่มีการปนเปื้อนเชื้อโดยผู้เตรียมอาหารเป็นพาหะของโรค รวมทั้งรับประทานอาหารที่ไม่ได้ปรุงให้สุก

ใครคือผู้ที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ

  •  ผู้ที่อาศัยในบ้านเดียวกับผู้ป่วย
  •  ประชาชนที่อาศัย หรือ นักท่องเที่ยวเดินทางไปในพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาด
  •  เด็กหรือเจ้าหน้าที่ในศูนย์เลี้ยงเด็ก
  •  ผู้ที่อาศัยในชุมชนแออัด หรือ ผู้อพยพที่อาศัยในที่พักชั่วคราว
  •  ผู้ที่เป็นโรคตับอักเสบเรื้อรัง หรือ ตับแข็ง จาก สุรา ไวรัสตับ B และ C

การป้องกันทำได้อย่างไร

  • วิธีที่ทำได้ง่ายที่สุด คือ ล้างมือทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำ หรือ ก่อนปรุงอาหาร ควรใส่ถุงมือเมื่อต้องสัมผัสอุจจาระคนอื่นและล้างมือให้สะอาด
  • วิธีป้องกันที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด คือ การฉีดวัคซีนไวรัสตับอักเสบ

วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ

  •  ภูมิคุ้มกันจะเริ่มหลังได้วัคซีนเข็มแรก 4 สัปดาห์และอยู่ได้นานประมาณ 20 ปี
  •  สามารถเริ่มให้ตั้งแต่เด็กอายุมากกว่า 2 ขวบที่เสี่ยงต่อการไดัรับไวรัสตับอักเสบเอ
  •  ขนาดของวัคซีนฉีด 3 เข็ม เดือนที่ฉีดคือเดือน 0 ครั้งต่อไป 6 และ 12 เดือน ตามลำดับ
  •  การให้วัคซีนสามารถให้พร้อมกับวัคซีนอื่น เช่น ไวรัสตับอักเสบบี บาดทะยัก วัคซีนป้องกันคอตีบ วัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบ ผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีน  เมื่อจะต้องไปประเทศที่มีการระบาดควรได้รับวัคซีน 4 สัปดาห์ก่อนเดินทาง

ควรจะทดสอบภูมิคุ้มกันก่อน หรือหลังการฉีดวัคซีนหรือไม่

  • ในคนที่อายุน้อยกว่า 18 ปี อาจให้วัคซีนโดยไม่จำเป็นต้องตรวจภูมิต้านทานโรค
  • ส่วนคนที่อายุมากกว่า 18 ปี ควรทำการทดสอบภูมิคุ้มกันก่อน เนื่องจากประเทศไทยมีผู้ใหญ่จำนวนมากที่เคยได้รับเชื้อและมีภูมิต้านทานแล้ว

Immune globulin คืออะไร

เป็นภูมิต่อไวรัสตับอักเสบเอ สำหรับผู้ที่มีอาการแพ้วัคซีน หรือ ในกรณีต้องการป้องกัน ในระยะสั้นก่อนสัมผัสโรคหรือให้หลังสัมผัสโรคโดยตรงในช่วงไม่เกิน 2 สัปดาห์

คะแนนบทความ

มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว?