ทุกคนคงต้องความรู้จักกับ PM 2.5 และการป้องกันมลพิษทางอากาศชนิดนี้ จะได้ไม่เกิดผลกระทบต่อสุขภาพของตัวเองและคนในครอบครัวโดยเฉพาะเด็กเล็ก
คือ อนุภาคขนาดเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางเฉลี่ยน้อยกว่า/เท่ากับ 2.5 ไมครอน แขวนลอยอยู่ในอากาศรวมกับไอน้ำ ควัน และก๊าซต่างๆ เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงธรรมชาติที่ไม่สมบูรณ์ เช่น การเผาไหม้ของรถยนต์ การเผาสิ่งปฏิกูล ควันบุหรี่ รวมถึงฝุ่นจากการก่อสร้าง เนื่องจาก PM 2.5 มีขนาดเล็กมาก ทำให้เมื่อเราสูดเข้าไป อนุภาคเล็กๆ เหล่านี้จะสามารถผ่านลงไปได้ลึกจนถึงถุงลมซึ่งเป็นส่วนปลายสุดของปอด ทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อหลอดลมฝอย ถุงลม และยังดูดซึมผ่านเส้นเลือดฝอยผ่านเข้าสู่กระแสเลือดได้ในที่สุด ซึ่งสารเหล่านี้จะมีผลต่อร่างกายมากมาย ทำให้สารต้านอนุมูลอิสระของร่างกายลดลง เกิดการอักเสบของทางเดินหายใจในคนสูงอายุและโดยเฉพาะเด็กเล็ก รวมถึงคนที่มีโรคระบบทางเดินหายใจเรื้อรังได้แก่ โรคภูมิแพ้ โรคหืด และโรคถุงลมโป่งพอง ซึ่งจะทำให้มีอาการกำเริบได้ ในระยะยาวยังมีผลต่อาการทำงานของปอดด้วย
ในเด็กที่เป็นโรคภูมิแพ้และโรคหืด ทางเดินหายใจของเด็กกลุ่มนี้จะมีความไวต่อการกระตุ้นจากฝุ่นละออง ซึ่งทำให้อาการของโรคแย่ลงง่ายกว่าคนทั่วไป มีวิธีสังเกตุอาการว่าได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศดังกล่าว หรือได้สูดฝุ่นละอองเข้าไปปริมาณมากหรือไม่นั้นสามารถสังเกตุจากอาการ น้ำมูกไหล ไอจาม แน่นหน้าอก หายใจลำบาก แสบตา น้ำตาไหล ตาแดง
ถ้าพบว่าเด็กๆ มีอาการดังกล่าว แนะนำให้พบกุมารแพทย์ เพื่อตรวจร่างกายให้ละเอียด หากมีภาวะจำเป็นอาจต้องตรวจเพิ่มเติมโดยแพทย์เฉพาะทางต่อไป
“สำหรับหน้ากาก N95 คือหน้ากากอนามัยที่มีคุณสมบัติป้องกันโมเลกุลขนาดเล็กทั้งฝุ่น PM2.5 รวมทั้งเชื้อโรคขนาดเล็ก เช่น วัณโรค สามารถป้องกันฝุ่นละอองและมลพิษทางอากาศได้ดี กรองฝุ่นละอองที่มีขนาด 0.1-0.3 ไมครอนได้ 95% เป็นอย่างน้อย โดยหากจะสวมหน้ากาก N95 ต้องสวมให้ถูกวิธี ต้องมีการทำ Fit test คือการกดขอบลวดด้านบนให้แนบกับดั้งจมูก และดึงสายรัดให้ตึง ระหว่างการหายใจต้องไม่มีลมรั่วออกด้านข้าง”
สมัครสมาชิกเพื่อจัดเก็บข้อมูลของคุณสำหรับการนัดหมายครั้งต่อไป
มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว? เข้าสู่ระบบที่นี่