ในเมื่อแทบไม่สามารถแยกเด็กออกจากทอฟฟี่ได้ การให้เด็กกินทอฟฟี่จึงควรใส่ใจรายละเอียด ดังนี้
ดูส่วนผสมของทอฟฟี่ทุกครั้งก่อนซื้อ เปรียบเทียบปริมาณน้ำตาลจำนวนไม่ควรเกิน 12 กรัม รวมถึงเลือกที่มีส่วนผสมของธรรมชาติให้มากที่สุด เช่น เป็นสีปรุงอาหารที่รับประทานได้ หรือใช้สมุนไพรเพิ่มความหวาน
เลือกทอฟฟี่ที่ทำจากวัตถุดิบธรรมชาติ เช่น น้ำตาลมะพร้าว นม กล้วย หรือผลไม้ชนิดต่างๆ แทนทอฟฟี่สีสดที่ทำจากสารสังเคราะห์
ปัจจุบันมีการผลิตทอฟฟี่หรือลูกอมชนิดที่ใช้อมระหว่างมื้ออาหาร และอมวันละหลายๆ ครั้ง ซึ่งส่งผลเสียอย่างมาก เนื่องจากเป็นการเพิ่มเวลาและปริมาณน้ำตาลให้เชื้อจุลินทรีย์ใช้สร้างกรดซึ่งเป็นสาเหตุของฟันผุมากขึ้น
เนื่องจากลูกอมมีลักษณะเหนียวหนับ เมื่อเคี้ยวจะยิ่งติดฟันมากขึ้น โดยเฉพาะในบริเวณซอกฟัน ซึ่งหากทำความสะอาดไม่ทั่วถึงอาจส่งผลเสียกับฟันมากขึ้น
แม้จะเลือกทอฟฟี่ที่หวานน้อย หรือทำจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ แต่ขึ้นชื่อว่าทอฟฟี่แล้วก็ย่อมมีความหวาน ดังนั้นควรมีการจำกัดการรับประทาน เช่น กินได้ครั้งละ 1-2 เม็ด หรือสามารถกินทอฟฟี่ได้เฉพาะในงานสำคัญ หรือเมื่อทำงานบางอย่างได้สำเร็จ
ไม่รับประทานทอฟฟี่ก่อนอาหาร เพราะจะทำให้อิ่มจนรับประทานข้าวไม่ได้ รวมถึงไม่กินในระหว่างวิ่งเล่น หรือนั่งรถเด็ดขาด เพราะเด็กอาจสะดุดล้มหรือสำลัก อาจทำให้ทอฟฟี่ติดคอ เป็นอันตรายได้
ควรฝึกให้เด็กแปรงฟันทุกครั้งหลังกินทอฟฟี่ หรืออาหารหวานอื่นๆ เพื่อลดการสะสมของน้ำตาลในบริเวณซอกฟัน ซึ่งอาจส่งผลให้ฟันผุ