คุณหมอได้เล่าให้เราฟังถึงกรณีศึกษาที่น่าสนใจว่า “เยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่หรือที่เราเรียกว่า ช็อกโกแลตซีสต์นี้ไม่ใช่ว่าจะเกิดที่รังไข่ได้ที่เดียว สามารถเกิดได้หลายที่ และเกิดได้หมด ที่กระเพาะปัสสาวะ ที่ตับ หมอเคยผ่าตัดกรณีหนึ่งที่แปลกมาก เรียกว่าฉีกตำราไปได้เลย คือ คนไข้มีอาการเยื่อบุโพรงมดลูกไปเจริญเติบโตที่ช่องปอด ทำเอาหมอถึงกับงงมากกว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ในตอนแรกคนไข้คนนี้ไปรักษาตัวอยู่หลายที่โดยไปหาหมอด้วยอาการไอเป็นเลือด ซึ่งแน่นอนหมอฟังแล้วก็ฟันธงเลยว่าน่าจะเป็นโรคปอดหรือวัณโรค จึงเอกซเรย์ปอดดูก็พบเหมือนมีอะไรอยู่ภายในปอด
หมอจึงคิดว่าเป็นเชื้อวัณโรคแน่ ๆ จึงสั่งยาวัณโรคให้คนไข้ไปรับประทาน คนไข้รับประทานยาอยู่หลายเดือน แต่อาการก็ยังคงเหมือนเดิม รักษาจนเกิดความท้อแท้ จนในที่สุดเดินมาพบหมอที่นี่ หมอจึงซักประวัติและเห็นความผิดปกติตรงที่ว่าคนไข้รายนี้จะไอเป็นเลือดทุกครั้งที่มีประจำเดือน ตอนที่ไม่มีประจำเดือนก็จะปกติ แต่มีอาการปวดท้องร่วมด้วยหมอจึงสงสัยเรื่องช็อกโกแลตซีสต์ แต่ก็ต้องการความแน่ใจจึงส่งไปเอกซเรย์ปอดอีกคราวนี้จึงเห็นว่ามีเลือดอยู่ในปอด
หมอจึงทำการปรึกษากับหมอเฉพาะทางท่านอื่น ๆ คุณหมอท่านอื่นจึงเห็นว่าควรส่งเข้าตรวจ MRI จึงส่งคนไข้ไปตรวจหมอในทางปอดบอกว่าปอดของคนไข้ไม่ได้มีความผิดปกติแต่ทำไมมีเลือดในปอดได้ ทุกคนก็ประหลาดใจว่าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นได้อย่างไร ทีนี้หมอก็ต้องจัดการตรวจภายในช่วงนั้นก็ต้องมีการให้ยาเพื่อกดรังไข่ให้ฝ่อเป็นการลดฮอร์โมนลง ปรากฏว่าเมื่อให้ยาแล้ว เลือดตรงช่องปอดกลับลดลงและคนไข้ก็ไม่มีอาการไอเป็นเลือดอีกเลย ก็ต้องเรียกว่าเป็นกรณีที่แปลกประหลาดและน่าศึกษามาก แต่จากกรณีเหล่านี้ทำให้หมอเข้าใจได้ว่า เยื่อบุโพรงมดลูกสามารถไปเจริญเติบโต ณ จุดไหนก็ได้จึงเป็นอะไรที่อันตรายไม่น้อยเลยทีเดียว”
วันนี้เรียกได้ว่า เราได้จัดเต็มกับความรู้เรื่องช็อกโกแลตซีสต์กันแบบครบถ้วนจริง ๆ ต้องขอบขอบพระคุณ คุณหมอมฆวัน ธนะนันท์กูลอีกครั้งที่ได้สละเวลามาถ่ายทอดความรู้ผ่านประสบการณ์การรักษาให้เราได้รับรู้เมื่อคุณรู้ถึงพิษภัยของโรคนี้แล้ว ก็หวังว่าคุณสาว ๆ จะหมั่นสังเกตความผิดปกติของร่างกายตัวเอง หากพบความผิดปกติให้รีบไปพบสูตินรีแพทย์ เพื่อตรวจอาการตั้งแต่เนิ่น ๆ ก่อนที่โรคจะลุกลามก็น่าจะเป็นการดีที่สุด