“เจ็บหน้าอก” คำบ่นที่ไม่ควรรอช้า

“เจ็บหน้าอก” คำบ่นที่ไม่ควรรอช้า

HIGHLIGHTS:

  • อาการเจ็บหน้าอกเป็นได้จากหลายสาเหตุ แต่ที่น่ากลัวที่สุด คือ โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (Heart Attack หรือ Acute myocardial infarction)
  • หากมีอาการเจ็บแน่นอกติดต่อกันมากกว่า 20 นาทีขึ้นไป มีโอกาสสูงที่จะเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ควรพบแพทย์ทันที

หากมีคนบ่นว่า “เจ็บหน้าอก” หลายคนจะนึกถึง โรคหัวใจเป็นโรคอันดับแรกๆ แต่จะมีสักกี่คนที่จะนึกต่อได้ว่าหากเจ็บอกครั้งนี้เป็นจากโรคหัวใจจริง ถือเป็นภาวะเร่งด่วนที่จะต้องนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลในทันที แต่ในบางครั้งเราก็อาจเคยเจอวัยรุ่นอายุ 15 ปี บ่นเจ็บอกขณะออกกำลังกาย หรือเจอเพื่อนทะเลาะกันแฟนแล้วบ่นเจ็บแน่นหน้าอก อาการแบบนี้จะใช่โรคหัวใจรึเปล่า หรือควรต้องรีบพามาห้องฉุกเฉินไหม ดังนั้นหากเรารู้จักลักษณะจำเพาะของอาการโรคหัวใจก็จะทำให้เรามีความมั่นใจได้มากขึ้นว่าอาการแบบนี้ควรต้องรีบพามาโรงพยาบาล

สาเหตุของอาการเจ็บหน้าอก

อาการเจ็บหน้าอกเป็นได้จากหลายสาเหตุ แต่ที่เรากลัวที่สุด เพราะหากเป็นแล้วอาจถึงตายได้ คือ โรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน (Heart Attack หรือ Acute myocardial infarction) ซึ่งภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันนั้น จะมีลักษณะอาการจำเพาะดังนี้

  • แน่นหน้าอกเหมือนมีอะไรหนัก ๆ มากดทับที่กลางอกลึกๆอยู่ข้างในทรวงอกใต้ผิวหนัง
  • มักมีอาการปวดร้าวไปที่อื่น ได้แก่ ไหล่ แขน หรือกราม (อาจร้าวไปข้างใดข้างหนึ่งหรือ 2 ข้างพร้อมกันก็ได้)
  • บางรายอาจไม่ได้รู้สึกเจ็บที่กลางอก แต่อาจมีอาการจุกแน่นบริเวณใต้ลิ้นปี่แทน โดยที่ไม่เคยมีประวัติโรคกระเพาะอาหารมาก่อน
  • เมื่อออกแรง เช่นลุกเดิน แล้วแน่นอกมากขึ้นมากขึ้น และเมื่อได้นั่งพักแล้วอาการแน่นอกทุเลา
  • มีเหงื่อออกท่วมตัว
  • อาจมีอาการคลื่นไส้ หน้ามืด ใจสั่น หรือหอบเหนื่อยผิดปกติแม้ขณะนอนพักเฉยๆ จึงมักจะลุกเดินเองไม่ไหว

หากมีอาการเจ็บแน่นอกดังกล่าวติดต่อกันนานมากกว่า 20 นาทีขึ้นไป ถือว่ามีโอกาสสูงที่จะเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ควรพาผู้ป่วยไปพบแพทย์ทันที

โรคอื่นๆที่อาจมีอาการเจ็บบริเวณอกได้

  1. โรคปอดรั่ว (pneumothorax) ผู้ป่วยจะมีอาการเจ็บแน่นในอกได้ แต่มักจะเจ็บอกที่ข้างซ้ายหรือขวาข้างใดข้างหนึ่งชัดเจน ร่วมกับหายใจไม่อิ่มเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ ทีละน้อยตลอดเวลา โรคนี้จำเป็นต้องรับการรักษาโดยเร็ว เพราะหากปล่อยไว้ติดต่อกันหลายชั่วโมงอาจทำให้เกิดภาวะหายใจล้มเหลวได้
  2. โรคกรดไหลย้อน (GERD) จะมีอาการเจ็บแบบแสบร้อนตั้งแต่บริเวณลิ้นปี่ ขึ้นมากลางอก บางรายอาจแสบร้อนขึ้นมาถึงในลำคอ เมื่อทานอาหารอิ่มหรือนอนราบแล้วมักมีอาการมากขึ้น ผู้ป่วยจะไม่มีอาการหอบเหนื่อย ลุกเดินไปมาแล้วอาการจะทุเลา อาการมักจะดีขึ้นหลังได้รับยารักษาโรคกระเพาะอาหาร เป็นโรคที่ไม่อันตรายถึงแก่ชีวิต แต่เพราะมีอาการคล้ายโรคหัวใจ จึงควรมาโรงพยาบาลเพื่อให้แพทย์ช่วยยืนยันการวินิจฉัยและวางแผนการรักษา
  3. โรคกระดูกซี่โครงอักเสบ (costochondritis) จะมีอาการเจ็บกลางอกค่อนไปทางซ้ายหรือขวาก็ได้ มักมีอาการเจ็บแบบแปลบๆ เกร็งๆ ฉับพลันที่ผนังหน้าอก บอกตำแหน่งที่เจ็บเป็นจุดๆ ได้ชัดเจน โดยอาการจะสัมพันธ์กับการเปลี่ยนท่าทาง บางรายอาจเจ็บมากจนไม่กล้าหายใจเข้าเพราะเมื่อหายใจเข้าแล้วจะเจ็บทุกครั้งตามการขยับของซี่โครง เมื่อพักอยู่นิ่งๆ สักพักแล้วอาการจะค่อยๆ ทุเลาไปเอง หากมีอาการเจ็บหน้าอกช่วงสั้นๆ น้อยกว่า 5นาทีแล้วดีขึ้นเอง ไม่จำเป็นต้องมาโรงพยาบาล แต่หากมีอาการเจ็บติดต่อกันนานเกินกว่า 20 นาที ควรมาพบแพทย์เพื่อช่วยยืนยันการวินิจฉัย
  4. โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด (Pulmonary embolism) บางคนอาจเรียกว่า Economy class syndrome เนื่องจากโรคนี้จะมีความสัมพันธ์กับการเดินทางไกลแล้วต้องนั่งอยู่กับที่โดยไม่ค่อยมีการขยับขาติดต่อกันหลายชั่วโมง ร่วมกับมีภาวะขาดน้ำเป็นปัจจัยเสริม ทำให้เลือดข้นหนืดแล้วเกิดเป็นลิ่มเลือดที่ขาวิ่งเข้าสู่ปอดได้ ทำให้คนไข้มีอาการเหนื่อย หายใจไม่อิ่ม เจ็บแน่นในอกคล้ายโรคหัวใจได้ แต่มักไม่ค่อยปวดร้าวไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ในรายที่เป็นมากอาจเสียชีวิตได้
  5. โรคหายใจเกิน (Hyperventilation syndrome) เกิดจากผู้ป่วยมีการหายใจเร็วผิดปกติซึ่งสัมพันธ์กับภาวะอารมณ์ โดยเมื่อผู้ป่วยหายใจเร็วมากเกินไปจะทำให้สมดุลกรดด่างในเลือดผิดปกติจนเกิดอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่อิ่ม เกร็งชาทั่วตัว แล้วยิ่งผู้ป่วยฝืนหายใจเร็วขึ้น จะยิ่งทำให้อาการแย่ลง ภาวะนี้มักจะพบในกลุ่มวัยรุ่นที่อยู่ในอารมณ์เครียด กดดัน ซึ่งการปฐมพยาบาลทำได้โดยให้ผู้ป่วยอยู่ในพื้นที่สงบ ผ่อนคลาย และแนะนำให้ผู้ป่วยหายใจช้าๆ แบบปกติ อาการมักจะดีขึ้นเองใน 5-10นาที แต่หากผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้น ควรพามาพบแพทย์เพื่อช่วยให้การรักษาต่อไป

คุณสามารถตรวจสอบความเสี่ยงด้วยตนเองได้ที่

Reference Heart

คะแนนบทความ

มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว?