ก่อนอื่น ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า วิตามิน ยา และ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม นั้นมีความหมายและคุณสมบัติที่แตกต่างกัน
ยา หมายถึง วัตถุที่มุ่งหมายสำหรับใช้ในการวินิจฉัย บำบัด บรรเทา รักษา ป้องกันโรคหรือความเจ็บป่วย ซึ่งวิตามินก็จัดอยู่ในประเภทยา
อาหารเสริม คือ ผลิตภัณฑ์ที่กินเพื่อเสริมอาหารมื้อหลัก มีทั้งชนิดเหลว เม็ด ผง และแคปซูล
เมื่อรู้ตัวว่าท้องหรือกำลังวางแผนจะมีลูก ควรหยุดยาต่างๆ ที่เคยกินมาทันที และควรนำยานั้นไปปรึกษาคุณหมอ ไม่ว่าจะเป็นยาแก้สิว ยาแก้ปวดท้อง ยาแก้ไข้ ยาลดน้ำมูก ยากลุ่มลดความดันโลหิต หรือยาขับปัสสาวะ เพราะในช่วงอายุครรภ์ 3 เดือนแรก ที่ทารกกำลังพัฒนาอวัยวะ ไม่ว่าจะเป็นแขน ขา หัวใจ ยาแต่ละชนิดที่กินเข้าไปล้วนส่งผลต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ถ้าได้รับยาหรือสารเคมีต่างๆ ที่ผิดปกติ อาจจะทำให้เด็กพิการได้ ส่วนในช่วงสัปดาห์ที่ 9 หรือ 3 เดือนไปแล้ว ยาก็ยังอาจทำให้เด็กตัวเล็ก เจริญเติบโตช้า เกิดภาวะเกล็ดเลือดต่ำ หรือถึงขั้นเสียชีวิตในครรภ์ได้
แม้กระทั่งยาที่ไม่มีอันตราย หรือส่งผลต่อความผิดปกติใดๆ เช่น โฟลิก วิตามิน ยาบำรุงเลือด หรือยาที่อาจมีผลดีต่อทารก เช่น กลุ่มยาสเตียรอยด์บางตัวที่ช่วยทำให้เด็กทารกที่คลอดก่อนกำหนดมีปอดที่แข็งแรงสมบูรณ์ ก็ไม่ควรซื้อกินเอง แต่ควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์
เดี๋ยวนี้บ้านเรามีผลิตภัณฑ์อาหารเสริมมากมายหลายรูปแบบ ทั้งแบบเม็ด เป็นผงผสมกับน้ำหรือนม ซึ่งแน่นอนว่า สำหรับคุณแม่ท้องจะต้องระมัดระวังเรื่องการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นพิเศษ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่กินเข้าไป ล้วนส่งผ่านและมีผลกระทบต่อลูกในท้องได้
ถ้าคุณแม่คิดจะลดอาหารเพราะกลัวน้ำหนักเกิน แล้วกินวิตามินเสริมอย่างเดียว อาจจะไม่ใช่หนทางที่ถูกต้อง แต่ถ้าหากคิดว่าได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ และต้องการกินอาหารเสริมเพิ่มเติม ควรตรวจสุขภาพหรือปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อประเมินว่าจำเป็นหรือไม่ เพราะถ้าร่างกายได้รับสารอาหารเพียงพอแล้ว ร่างกายจะขับออกมาเป็นของเสีย ทำให้ไตต้องทำงานหนักขึ้น แถมยังสิ้นเปลืองเงินโดยใช่เหตุ นอกจากนี้ อาหารเสริมหลายตัวก็ยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยันว่าปลอดภัย อีกทั้งไม่รู้ว่ามีส่วนผสมอื่นๆ ที่อาจเป็นอันตรายกับแม่และทารกในครรภ์นอกเหนือจากที่ระบุไว้หรือเปล่า
สรุปว่าบรรดาผลิตภัณฑ์อาหารเสริมทั้งหลาย ไม่ว่าจะอ้างสรรพคุณว่าเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ หรือมีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงรักษาผิวพรรณ เสริมแร่ธาตุในร่างกาย หรือช่วยป้องกันโรคอะไรต่อมิอะไรนั้น ความจริงแล้วไม่มีความจำเป็นใดๆ สำหรับแม่และลูกในท้องเลย
เพียงแค่คุณแม่ดูแลสุขภาพและอาหารการกินของตัวเองให้ดี ด้วยการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่ เช่น กินโปรตีนจากไข่ นม และวิตามินของคนท้องตามที่คุณหมอแนะนำ เช่น โฟลิก วิตามินรวม วิตามิน อี ซี (สำหรับคุณแม่ที่ไม่ชอบกินผักและผลไม้) ดื่มนมให้ได้วันละ 1 ลิตร เพื่อป้องกันตะคริว และเมื่ออายุครรภ์เข้าสู่เดือนที่ 4-5 ควรเสริมธาตุเหล็ก เพื่อให้ลูกเอาไปสร้างเม็ดเลือด และเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมกับการเสียเลือดตอนคลอดก็พอ
รู้หลักในการใช้ยาและผลิตภัณฑ์อาหารเสริมระหว่างตั้งครรภ์กันแล้ว คราวนี้คุณแม่ก็สามารถดูแลสุขภาพตัวเอง และเจ้าตัวเล็กในท้องได้อย่างมั่นใจแล้วนะคะ
สมัครสมาชิกเพื่อจัดเก็บข้อมูลของคุณสำหรับการนัดหมายครั้งต่อไป
มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว? เข้าสู่ระบบที่นี่