เตรียมสุขภาพพร้อมเที่ยวกับ แพทย์เวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว (Travel Medicine)

เตรียมสุขภาพพร้อมเที่ยวกับ แพทย์เวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว (Travel Medicine)

HIGHLIGHTS:

  • การเดินทางมีทั้งแบบระยะสั้น และ แบบระยะยาว ซึ่งการเดินทางทั้ง 2 แบบ ควรต้องมีการเตรียมตัว เตรียมความพร้อมด้วยการปรึกษาแพทย์เวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาด้านสุขภาพ
  • เวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว (Travel Medicine) คือ สาขาเฉพาะทางหนึ่งทางการแพทย์ ด้านเวชศาสตร์ป้องกัน
  • แพทย์เวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว จะให้การดูแลสุขภาพที่เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทาง ทั้งก่อนเดินทาง ระหว่างเดินทางและหลังจากเดินทาง เพื่อลดการเจ็บป่วย ลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพและการเสียชีวิตในกลุ่มนักเดินทางท่องเที่ยว

ในยุคที่การเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศสะดวก รวดเร็ว การพบแพทย์เวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว เพื่อรับคำแนะนำในการเตรียมความพร้อมแก่ผู้เดินทางหรือนักท่องเที่ยวให้รับรู้และตระหนักถึงความเสี่ยงจากโรคและภัยสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น ทำให้การได้รับคำแนะนำในการป้องกันก่อนเดินทาง ระหว่างการเดินทาง และหลังจากเดินทางกลับ มีความสำคัญอย่างยิ่งในการลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพ และสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัย

การเตรียมตัว (ด้านสุขภาพ) ก่อนเดินทาง

ก่อนออกเดินทาง ผู้เดินทางควรแน่ใจว่าตนมีสุขภาพแข็งแรงเพียงพอ พร้อมที่จะเดินทาง ในกรณีเดินทางระยะยาว ควรได้รับการตรวจสุขภาพและทันตกรรม หรือการประเมินสุขภาพจิต (ในบางกรณี) ก่อนการเดินทาง สำหรับผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรพบแพทย์ประจำตัว เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการเดินทางในครั้งนั้นๆ และพบแพทย์เวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว ซึ่งจะเป็นผู้ให้การดูแลสุขภาพที่เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทาง ทั้งก่อนเดินทาง ระหว่างเดินทางและหลังจากการเดินทาง 

ประเภทของการเดินทางแบ่งได้ 2 แบบ

  • การเดินทางระยะสั้น เช่น การเดินทางในช่วงสุดสัปดาห์หรือระยะสั้น (ไม่เกิน 6 เดือน) มักจะมีแผนการเดินทางและระยะเวลาที่ชัดเจน ส่วนใหญ่ มักเลือกทำกิจกรรมหรือทานอาหารท้องถิ่น โดยจุดประสงค์สำหรับการเดินทางระยะสั้น เช่น การเดินทางเพื่อท่องเที่ยว เดินทางไปเยี่ยมญาติ หรือเดินทางไปประชุม เป็นต้น 
  • การเดินทางระยะยาว  (ตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป) ความเสี่ยงในการเจ็บป่วยหรือการบาดเจ็บมักมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาการเดินทาง ดังนั้นนักเดินทางที่วางแผนเดินทางระยะยาว โดยเฉพาะเดินทางไปยังประเทศที่มีรายได้น้อยหรือปานกลาง อาจต้องพิจารณาเป็นพิเศษ เช่น กำหนดการเดินทาง ประเด็นที่ต้องการปรึกษาก่อนการเดินทาง ได้แก่ การเข้าถึงบริการทางการแพทย์ตามปกติและสถานการณ์ฉุกเฉิน ณ ประเทศปลายทาง วัคซีน โรคติดเชื้อที่วัคซีนไม่ได้ป้องกัน การป้องกันการบาดเจ็บ รวมถึงปัญหาทางวัฒนธรรมและสุขภาพจิตที่ผู้เดินทางระยะยาวอาจเผชิญ 

เวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว หรือ Travel Medicine คืออะไร

เวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว (Travel Medicine) คือ สาขาเฉพาะทางหนึ่งทางการแพทย์ ด้านเวชศาสตร์ป้องกัน ซึ่งพัฒนาขึ้นมากในช่วงไม่กี่สิบปีมานี้ เนื่องจากมีการเดินทางกันอย่างแพร่หลายมากขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดโรคหรือปัญหาสุขภาพต่างๆ ที่เกี่ยวกับการเดินทางได้

โดยแพทย์เวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว จะเป็นผู้ให้การดูแลสุขภาพที่เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทาง ทั้งก่อนเดินทาง ระหว่างเดินทางและหลังจากเดินทาง เพื่อลดการเจ็บป่วย และเสียชีวิตในกลุ่มนักเดินทางท่องเที่ยว ถึงแม้ว่าจะชื่อเวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว แต่ก็ไม่ได้จำกัดเฉพาะเพียงนักท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนักเดินทางทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น การเดินทางไปเยี่ยมญาติ ไปทำงาน ไปเรียน และอื่นๆ ที่มีการเคลื่อนย้ายหรือเดินทางจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ทั้งแบบ Domestic Travel และ International Travel

การเดินทางไปประเทศไหนบ้างที่ควรปรึกษาแพทย์ก่อน

ในการประเมินความเสี่ยงของผู้เดินทางแต่ละคน แพทย์เวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยวจะพิจารณาจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น ตัวผู้เดินทางเอง สถานะสุขภาพหรือข้อจำกัดต่างๆ ประวัติการได้รับวัคซีนและประวัติการเดินทางในอดีต รวมไปถึงลักษณะการเดินทางในครั้งนั้นๆ เช่น จุดประสงค์ของการเดินทาง จุดหมายปลายทาง แผนการเดินทาง กิจกรรมที่ทำ ลักษณะที่พัก เป็นต้น ซึ่งนักเดินทางแต่ละคนนั้นย่อมมีความเสี่ยงที่แตกต่างกันไป 

ยกตัวอย่างเช่น หากคนหนึ่งเดินทางไปเที่ยวระยะสั้น กับอีกคนเดินทางไปทำงานระยะเวลานานเป็นปี ถึงแม้จะเดินทางไปประเทศเดียวกัน แต่ความเสี่ยงก็อาจจะไม่เท่ากัน หรือแม้จะเดินทางไปประเทศเดียวกัน แต่คนละช่วงเวลาก็อาจพบความเสี่ยงที่ต่างกันได้ เช่น ช่วงที่เราพบว่ามีการระบาดของโรคหัดเยอรมันในประเทศญี่ปุ่น หากไม่ทราบหรือไม่ได้ปรึกษาแพทย์ก่อนการเดินทาง ก็

นอกจากนี้การเดินทางไปยังบางประเทศในแถบแอฟริกาใต้ และอเมริกาใต้ หลายประเทศมีข้อกำหนดให้ฉีดวัคซีนไข้เหลือง ผู้เดินทางจึงจำเป็นต้องมาพบแพทย์เวชศาสตร์การเดินทาง เพื่อรับคำแนะนำและฉีดวัคซีนก่อนการเดินทางอย่างน้อย 10 -14 วัน 

ดังนั้น การพบแพทย์เวชศาสตร์การเดินทางและท่องเที่ยว ก่อนการเดินทางเพื่อรับคำแนะนำในการเตรียมความพร้อมแก่ผู้เดินทางหรือนักท่องเที่ยว จึงมีความสำคัญในการลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสุขภาพและความปลอดภัย และทำให้การเดินทางสนุกและปลอดภัยอีกด้วย 

หากท่านใดที่เดินทางไปแล้วมีปัญหาด้านสุขภาพสามารถติดต่อมาที่โรงพยาบาลสมิติเวช โดยทางโรงพยาบาลมี Virtual Hospital ที่ช่วยให้ผู้ป่วยและแพทย์สามารถพูดคุยตอบโต้กันได้แบบ Real-time พร้อมด้วยบริการครบวงจรเสมือนการเข้าโรงพยาบาลจริง โดยมีบริการหลัก คือ บริการปรึกษาแพทย์ออนไลน์ ตลอด 24 ชม. ด้วยทีมแพทย์และพยาบาล และบริการเสริมอีกมากมาย เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับประสบการณ์ที่เสมือนจริง ไม่ต่างกับการมารับบริการที่โรงพยาบาล

คะแนนบทความ

มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว?