4 นาทีชีวิต เมื่อลูกจมน้ำ

• หากพบเหตุการณ์เด็กจมน้ำ ต้องทำการช่วยเหลือภายใน 4 นาที ก่อนที่ร่างกายขาดออกซิเจนส่งผลให้หัวใจหยุดเต้นได้
• เด็กว่ายน้ำเป็น ไม่ได้หมายความว่าจะไม่จมน้ำ การจมน้ำอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น การเป็นตะคริว หรือลงเล่นในขณะน้ำไหลเชี่ยว

สาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่งของเด็กไทยคือ จมน้ำ โดยตัวเลขในปี 2559 มีเด็กอายุน้อยกว่า 15 ปี เสียชีวิตจากการจมน้ำถึง 700 คน และสถิติจากทั่วโลกพบเด็กจมน้ำ เฉลี่ยปีละ 135,585 คน หรือ 372 คนต่อวัน
เด็กกับน้ำเป็นของคู่กัน ขึ้นชื่อว่าเด็กชอบเล่นน้ำทุกคน โดยเฉพาะฤดูร้อนที่ตรงกับช่วงปิดภาคเรียน เด็กๆ มักชวนกันเล่นน้ำสนุกสนาน จนลืมเรื่องความปลอดภัย รวมถึงด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดขึ้นได้
หากพบเหตุการณ์เด็กจมน้ำ ต้องทำการช่วยเหลือให้เร็วที่สุด นับเวลาที่ร่างกายขาดออกซิเจน ภายใน 4 นาทีเท่านั้น เนื่องจากน้ำจะเข้าไปในระบบทางเดินหายใจและปอด ทำให้เกิดภาวะขาดออกซิเจนเฉียบพลัน หมดสติ และหัวใจหยุดเต้นในที่สุด

1. เฝ้าระวังจุดเสี่ยงในบ้าน และรอบๆ บ้าน เช่น สระน้ำ หรือบ่อปลา
2. ฝึกให้เด็กว่ายน้ำเป็น รวมถึงการสอนให้เด็กรู้จักความปลอดภัยทางน้ำ ไม่ลงเล่นในแหล่งน้ำเชี่ยว และไม่เล่นน้ำโดยประมาทหรือคึกคะนอง
3. ไม่ควรให้เด็กเล่นน้ำโดยลำพัง ควรมีผู้ปกครองอยู่ด้วยเสมอ
4. บริเวณสระว่ายน้ำ หรือแหล่งท่องเที่ยวทางน้ำ ควรมีผู้ดูแลความปลอดภัย (Lifeguard ) ป้ายเตือนความลึก ความแรงของกระแสน้ำ ในกรณีโดยสารทางเรือ ควรมีเสื้อชูชีพสำหรับผู้โดยสาร

อย่างไรก็ตาม การที่เด็กว่ายน้ำเป็น ไม่ได้หมายความว่าเด็กจะไม่จมน้ำ การจมน้ำอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆ เช่น การเป็นตะคริวหรือหมดแรงขณะว่ายน้ำ หากไม่อยากให้ลูกหลานต้องเสี่ยงกับ 4 นาทีชีวิต ที่ไม่รู้ว่าจะเป็นหรือตาย ผู้ปกครองควรให้ความรู้ควบคู่ไปกับการป้องกันก่อนปล่อยลูกหลานออกไปสนุกกับสายน้ำเสมอ