จะรู้ได้มั้ย ว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ โดยไม่ต้องมาโรงพยาบาล ? ไข้หวัดใหญ่ในยุค New Normal

• หากมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้สูง ไอ จาม น้ำมูกไหล ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อ่อนเพลียมาก รวมทั้งมีประวัติใกล้ชิดผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในช่วงนั้น ควรรีบเข้ารับการวินิจฉัยโดยเร็ว
• หากจำเป็นต้องรักษาไข้หวัดใหญ่ด้วยยาต้านไวรัส การได้รับยาภายใน 48 ชั่วโมงหลังเริ่มมีอาการ จะส่งผลให้อาการของไข้หวัดใหญ่หายได้เร็วขึ้น ลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อน อีกทั้งยังลดโอกาสการแพร่กระจายเชื้อสู่ผู้อื่นได้อีกด้วย

เข้าสู่หน้าฝนอย่างเป็นทางการแล้ว อาการเจ็บป่วยต่างๆ ก็เข้ามามากในช่วงนี้ โดยเฉพาะไข้หวัดใหญ่ แม้เราจะมีความระมัดระวังมากขึ้น ทั้งมาตรการ social distancing การใช้หน้ากากอนามัยหรือเจลแอลกอฮอล์ การล้างมือบ่อย ๆ รวมไปถึงการออกกำลังกาย และการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะเจ็บป่วยได้ ซึ่งหากเริ่มมีอาการเจ็บป่วย สิ่งสำคัญที่สุดคือการเข้ารับการประเมินอาการและความรุนแรงของโรค และการได้รับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมและรวดเร็วถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้เรากลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้เร็วขึ้น

ฤดูฝน (มิถุนายน-ตุลาคม) และฤดูหนาว (มกราคม-มีนาคม) ถือเป็นช่วงฤดูกาลระบาดของไข้หวัดใหญ่ และยังมีจำนวนผู้ป่วยที่ติดเชื้อจำนวนมากแม้ว่าจะมีการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันแล้วก็ตาม จะเห็นว่าในปี 2562 มีผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สูงถึง 390,733 ราย เสียชีวิต 27 ราย

• กลุ่มอายุที่พบอัตราป่วยสูงสุด คือ กลุ่มเด็กเล็กและเด็กวัยเรียน1 และมีอีกจำนวนไม่น้อยที่มีอาการรุนแรง และมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม ไซนัสอักเสบ หูชั้นกลางอักเสบ ระบบหายใจล้มเหลว เป็นต้น
• กลุ่มที่มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนสูงที่สุด คือ กลุ่มผู้ป่วยสูงอายุที่มีอายุมากกว่า 65 ปี เด็กที่มีอายุน้อยกว่า 5 ปี สตรีที่กำลังตั้งครรภ์ และผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด โรคหอบหืด โรคตับ โรคไต โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือกำลังได้รับยาเคมีบำบัด รวมไปถึงยากดภูมิต่าง ๆ

การหมั่นสังเกตอาการเมื่อสงสัยว่าอาจจะเป็นไข้หวัดใหญ่จึงเป็นสิ่งสำคัญ :ซึ่งอาการแสดงของไข้หวัดใหญ่มีดังนี้

• ไข้สูง
• หนาวสั่น
• ไอ จาม
• น้ำมูกไหล
• ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
• อ่อนเพลียมาก
• ในผู้ป่วยเด็กอาจมีอาการปวดท้อง หรือ ท้องเสียร่วมด้วยได้

การมีประวัติใกล้ชิดผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในช่วงนั้นก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องแจ้งแพทย์ เพื่อให้ได้การวินิจฉัยที่รวดเร็ว และหากจำเป็นต้องได้รับการรักษาด้วยยาต้านไวรัส การได้รับยาภายใน 48 ชั่วโมงหลังเริ่มมีอาการ จะส่งผลให้อาการของไข้หวัดใหญ่หายได้เร็วขึ้น ลดโอกาสการเกิดภาวะแทรกซ้อนโดยเฉพาะในผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยง อีกทั้งยังลดโอกาสการแพร่กระจายเชื้อสู่ผู้อื่นได้อีกด้วย2

จะเห็นได้ว่าการตรวจวินิจฉัยและการได้รับการรักษาที่รวดเร็วมีประโยชน์ต่อทั้งตัวผู้ป่วยเอง ครอบครัว รวมไปถึงคนรอบข้าง ในยุค New Normal ที่คนต้องปรับตัว จึงได้มีการให้บริการผ่านทางวิดีโอคอล ผู้ป่วยสามารถพูดคุยออนไลน์แบบเห็นหน้ากับแพทย์ ของ Virtual Flu Clinic โดยไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาล

ในบางกรณีที่จำเป็นต้องได้รับการตรวจยืนยันด้วยชุดตรวจ ทางโรงพยาบาลจะมีบริการไปเก็บสิ่งส่งตรวจถึงที่บ้านของผู้ป่วยได้ทันที หรือผู้ป่วยอาจเลือกที่จะเดินทางมาที่โรงพยาบาลและเข้ารับการตรวจที่จุดบริการ Fast Track จากนั้นผู้ป่วยสามารถกลับบ้านไป รอฟังผลตรวจจากแพทย์ผ่านวิดีโอคอล ไม่ต้องนั่งรอฟังผลในโรงพยาบาลอีกต่อไป

ส่วนยาและเวชภัณฑ์สำหรับผู้ป่วยก็จะถูกจัดส่งไปให้ถึงบ้านเช่นเดียวกัน จะเห็นได้ว่าการรับบริการตรวจวินิจฉัยโรคไข้หวัดใหญ่ผ่าน Virtual Flu Clinic จะช่วยประหยัดเวลา ลดโอกาสการแพร่เชื้อและรับเชื้อได้อย่างดี อย่างไรก็ตามในบางกรณี หากแพทย์เห็นว่าผู้ป่วยมีอาการที่ค่อนข้างรุนแรง และจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ทางแพทย์ก็จะมีคำแนะนำในเรื่องการปฎิบัติตนให้ระหว่างที่เดินทางมาโรงพยาบาล