เนื่องจากพฤติกรรมการชอบรับประทานอาหารทอด อาหารฟาสต์ฟู้ด ขนมขบเคี้ยว ทอฟฟี่ ของหวานเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง และสุดท้ายไม่ได้ออกกำลัง ทำให้ความสมดุลระหว่างพลังงานที่ได้รับจากการทานอาหารมากเกินไป แต่กลับใช้พลังงานน้อยเกินไป ทำให้โรคอ้วนถามหา
ในทางกลับกันผู้ปกครองอาจมองว่า เด็กอ้วน น่ารัก แต่ลืมนึกไปว่าความอ้วนส่งผลเสียต่อสุขภาพ ยิ่งเด็กๆ ที่มีคอดำ หรือข้อพับรักแร้ บริเวณที่เนื้อเสียดสีกัน มีลักษณะดำคล้ายขี้ไคลแต่อาบน้ำและขัดไม่ออก
เด็กอ้วน มีโอกาสเกิดความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง หยุดหายใจขณะหลับ รวมถึงเสี่ยงเป็นโรค “ไขมันพอกตับ” ที่ผู้ใหญ่วัยกลางคนและผู้สูงอายุเป็นกันได้ สูงถึง 22.5 – 44%*
ความรุนแรงของเด็กที่เป็นโรคนี้ ทำให้เด็กมีการถึงตับอักเสบ หรือตับแข็ง เพราะมีพังผืดในตับมากเกินไป โครงสร้างของเซลล์ตับจึงผิดปกติ ที่น่าตกใจกว่านั้น พบว่า เด็กอ้วนสามารถเป็นตับแข็งได้ตั้งแต่อายุ 8 ปี และเด็กอ้วนที่อยู่ในช่วงช่วงวัยรุ่นมีโอกาสเป็นไขมันพอกตับมากกว่าเด็กวัยรุ่นที่ไม่อ้วนถึงเกือบ 20 เท่า
อาการ มักไม่แสดงชัดเจน อาจแค่รู้สึกปวดท้อง อ่อนเพลีย บางครั้งอาจไม่ทำให้พ่อแม่นึกถึงโรคนี้
การตรวจวินิจฉัย วิธีการตรวจโรคนี้แบบง่ายที่สุดคือการอัลตราซาวนด์ตับ และวินิจฉัยโดยตรวจเลือดดูค่าการทำงานของตับ ในกรณีพบเด็กที่มีค่าการทำงานตับสูงกว่าปกติ กุมารแพทย์จะซักประวัติการได้รับยา สมุนไพร และตรวจหาโรคอื่นๆ ที่ทำให้เกิดตับอักเสบเพิ่ม เช่น ติดเชื้อไวรัส แพ้ภูมิตัวเอง หรือมีสารทองแดงค้างในตับ
การตรวจด้วย Fibro Scan เป็นการตรวจวัดความแข็งของตับ ประเมินว่ามีพังผืดในตับมากผิดปกติหรือไม่ สามารถตรวจได้ตั้งแต่ยังไม่มีอาการ เพื่อวางแผนทำการรักษาได้อย่างตรงจุดต่อไป
โดยทั้งหมดนี้ พ่อแม่อาจปรับพฤติกรรมให้เป็นตัวอย่างกับลูก โดยทำร่วมกัน
*เปอร์เซ็นต์สูงสุดของ เด็กอ้วน ที่เสี่ยงเป็นโรคไขมันในตับ
ที่มา: https://www.ncbi.nlm.nih.gov
สมัครสมาชิกเพื่อจัดเก็บข้อมูลของคุณสำหรับการนัดหมายครั้งต่อไป
มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว? เข้าสู่ระบบที่นี่