เพื่อการรักษาและวินิจฉัยที่มีประสิทธิภาพและได้รับผลกระทบน้อยที่สุด วงการแพทย์จึงมีการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีให้ใหม่ๆ ล้ำๆ อยู่เสมอเทคโนโลยีหนึ่งในปัจจุบันนี้ คือ เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง CT SCAN 128 SLICE
CT 128 SLICE เป็นเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง สามารถ SCAN ผู้ป่วยได้เร็วถึง128 ภาพ ต่อการหมุน 1 รอบ โดยใช้เวลาเพียง 0.4 วินาที เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ความเร็วสูง เครื่องนี้มีโปรแกรมช่วยลดปริมาณรังสี ทำให้ผู้ป่วยได้รับปริมาณรังสีน้อยลงกว่า CT SCAN ที่ใช้อยู่ทั่วไปในปัจจุบัน ซึ่งมีตั้งแต่ 1,4,16,32,64 และ 128 SLICE ตามพัฒนาการและความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการสร้างเครื่องมือที่ก้าวหน้าไปอยู่ตลอดเวลา ทำให้การตรวจร่างกายด้วยเครื่อง CT SCAN ดีขึ้นเรื่อยๆ มีความคมชัดความละเอียดของภาพมากขึ้น สามารถ SCAN ได้รวดเร็วขึ้นอย่างมาก จนกระทั่งสามารถตรวจอวัยวะที่เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาอย่างหัวใจได้
ความสามารถของ computer ในการจัดการกับข้อมูลที่ scan ผู้ป่วย ก็พัฒนาอย่างมาก ทำให้การสร้างภาพ 3 มิติที่มีความคมชัดมากขึ้นเรื่อยๆ สามารถดูภาพในระนาบต่างๆ รวมทั้ง การสร้างภาพแบบเดียวกับการตรวจส่องกล้อง เช่น การตรวจลำไส้ใหญ่ การตรวจท่อทางเดินหายใจ เป็นต้น
เนื่องจากหัวใจเป็นอวัยวะที่เคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา การตรวจหัวใจหรือเส้นเลือดหัวใจ จึงยากกว่าการตรวจอวัยวะอื่นๆ ที่อยู่นิ่งๆ CT SCAN ความเร็วสูงมากๆ จึงจะสามารถตรวจเส้นเลือดของหัวใจได้ โดยการฉีดสีเอกซเรย์เข้าเส้นเลือดที่แขน แล้วกำหนดให้เครื่อง scanหัวใจ ขณะที่สีเดินทางมาถึง จึงสามารถเห็นเส้นเลือดหัวใจได้ว่ามีการตีบตันมากน้อยเพียงใด มีหินปูน-ไขมัน เกาะในเส้นเลือดมากน้อยเพียงใด เพื่อที่แพทย์จะได้วางแผนการรักษาได้เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคน
แพทย์โรคหัวใจที่ดูแลผู้ป่วยจะเป็นผู้แนะนำ ว่าใครสมควรจะได้รับการตรวจเส้นเลือดหัวใจ โดยพิจารณาจากอาการและปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น เป็นเบาหวาน ความดัน ไขมันในเลือดสูง สูบบุหรี่ มีประวัติในครอบครัวเป็นโรคหัวใจ มีอาการเจ็บหน้าอกโดยไม่ทราบสาเหตุ การตรวจวิ่งสายพานได้ผลไม่ชัดเจนหรือก้ำกึ่ง เป็นต้น
การตรวจเส้นเลือดหัวใจด้วย CT SCAN 128 SLICE ใช้เวลาไม่นาน เวลาที่เครื่อง scan ทำงาน 9วินาที เท่านั้น แต่อาจใช้เวลาเตรียมตัว 30 นาที -1ชั่วโมง แพทย์หัวใจจะตรวจประเมินผู้ป่วย จะมีการให้ยาลดการเต้นของหัวใจให้ช้าลงเล็กน้อย อาจมีการให้ยาขยายหลอดเลือด ทั้งหมดนี้เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัด เพื่อให้การวินิจฉัยถูกต้องแม่นยำที่สุด ผู้ป่วยจะไม่เจ็บปวดอะไร มากกว่าการมีเข็มแทงที่แขนแบบเดียวกับการเจาะเลือด ถือว่าเป็นการตรวจที่ปลอดภัย มีความเสี่ยงเล็กน้อย ในกรณีที่ผู้ป่วยอาจแพ้สารทึบรังสีที่ใช้ฉีด ซึ่งพบได้น้อยมาก และโรงพยาบาลมีความพร้อมในการแก้ไขหากผู้ป่วยมีอาการแพ้
การตรวจเส้นเลือดหัวใจด้วยวิธีสวนหัวใจ ก็ถือว่าเป็นการตรวจที่ปลอดภัย ความเสี่ยงในการเกิดอันตรายจากการใช้สายสวนหัวใจมีบ้างแต่ก็น้อยมาก แต่การตรวจด้วย CT SCAN นี้ปลอดภัยยิ่งกว่า เพราะไม่มีการแทงเข็มเข้าเส้นเลือดแดง ไม่มีการใช้สายสวน แต่อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 วิธี มีข้อบ่งชี้ที่แตกต่างกัน การตรวจด้วยสายสวนหัวใจ แพทย์หัวใจจะทำเมื่อมีข้อบ่งชี้ว่าเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ และแพทย์สามารถให้การรักษาขยายหลอดเลือดได้ในการตรวจคราวเดียวกัน
ความแม่นยำของการบอกว่าเส้นเลือดหัวใจตีบ ไม่ตีบ อย่างมีนัยสำคัญ หรือบอกว่าตีบมากว่า 50% มีมากว่า 90% การตรวจเส้นเลือดหัวใจด้วย CT SCAN นอกจากจะเห็นว่าเส้นเลือดหัวใจตีบหรือไม่แล้ว ยังอาจเห็นความผิดปกติอื่นๆ ในทรวงอกที่อาจเป็นสาเหตุของอาการด้วย ผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บหน้าอกเฉียบพลัน acute chest pain การทำ CT เส้นเลือดหัวใจเป็นการตรวจแยกโรค 3 โรคสำคัญที่มีอันตรายถึงชีวิตได้ ในการตรวจเดียวได้ triple rule out study คือแยกโรคว่าเจ็บหน้าอก จากเส้นเลือดหัวใจตีบ หรือ เลือดออกเซาะผนังหลอดเลือดใหญ่ หรือ ลิ่มเลือดอุดตัน (coronary artery stenosis, aortic dissection, pulmonary embolism)
มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นมะเร็งที่พบบ่อยอย่างหนึ่ง จึงเป็นอวัยวะอย่างหนึ่งที่ควรตรวจ เพื่อหามะเร็งระยะเริ่มแรก สามารถตรวจได้ 3 วิธี คือ การเอกซเรย์สวนแป้ง ซึ่งเป็นวิธีที่ทำได้ง่าย แต่ความสามารถในการตรวจพบมะเร็งในระยะแรกเริ่มไม่มาก วิธีที่นิยมตรวจหามะเร็งระยะแรกเริ่ม คือการส่องกล้องเข้าทางทวารหนัก ซึ่งตรวจโดยแพทย์ทางเดินอาหาร หากพบก้อนเล็กๆ ที่เรียกว่า โพลิป(polyp) ก็สามารถตัดออกได้ทันที หากพบก้อนเนื้องอกก็สามารถตัดชิ้นเนื้อออกมาตรวจ ว่าเป็นมะเร็งหรือไม่ ในการตรวจส่องกล้องลำไส้ใหญ่จะมีความยุ่งยากอยู่ระดับหนึ่ง ทางเลือกอีกทางหนึ่งคือ การตรวจด้วย CT SCAN รังสีแพทย์จะสามารถเห็นทั้งภายใน และภายนอกลำไส้ใหญ่ หากมีก้อนมะเร็งก็จะสามารถประเมินก้อนมะเร็งนั้นว่ากระจายไปนอกลำไส้ ไปต่อมน้ำเหลือง หรือที่อื่นๆอีกหรือไม่
การตรวจเส้นเลือดสมอง ทรวงอก ช่องท้อง และแขนขา ในยุคก่อนนั้นจะต้องตรวจโดยการ ใส่สายสวนเส้นเลือดเข้าทางหลอดเลือดแดงที่ขาหนีบ แล้วดันสายสวนขึ้นไปจนถึงอวัยวะต่างๆ ที่ต้องการตรวจ ซึ่งมีความยุ่งยากในการตรวจพอสมควร แต่ปัจจุบันสามารถตรวจเส้นเลือดตั้งแต่หัวจรดเท้าได้ด้วย CT SCAN 128 SLICE ได้ง่ายดายด้วยวิธีการฉีดสีเข้าเส้นเลือดดำที่แขนเท่านั้น ด้วยความเร็วของเครื่อง CT ทำให้สามารถจับภาพเส้นเลือดของส่วนที่ต้องการได้ ในเวลาอันรวดเร็วนอกจากนี้ยังสามารถตรวจปริมาณเลือดที่เข้าไปเลี้ยงสมอง ได้อย่างรวดเร็ว (cerebral blood perfusion) ทำให้การรักษาโรคสมองขาดเลือด มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
กล่าวโดยสรุป CT SCAN ความเร็วสูง จะช่วยให้การวินิจฉัยโรคต่างๆ ตั้งแต่ศรีษะจรดเท้า ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวดเร็วขึ้น ช่วยให้การตรวจผู้ป่วยหนัก ผู้ป่วยฉุกเฉิน ผู้ป่วยเด็ก ทำได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น แต่ได้รับรังสีลดลงกว่าเครื่องรุ่นเก่า สำหรับการตรวจหลอดเลือดหัวใจ เมื่อเทียบกับวิธีสวนหัวใจ CT SCAN ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับผู้ป่วยอีกด้วย เพราะไม่ต้องนอนค้างในโรงพยาบาล
สมัครสมาชิกเพื่อจัดเก็บข้อมูลของคุณสำหรับการนัดหมายครั้งต่อไป
มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว? เข้าสู่ระบบที่นี่