1. การใส่ถุงยางอนามัย
คงเป็นวิธีที่หลายคนคงเคยได้ยินอยู่แล้ว เป็นวิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุด มีประสิทธิภาพสูง การใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ในปัจจุบันนี้มีการผลิตถุงยางอนามัยสำหรับผู้หญิง โดยการใส่ลงไปในช่องคลอด แต่ในประเทศไทยยังไม่ได้รับความนิยมมาก ดังนั้นจึงถือว่าเยาวชนหรือวัยรุ่นผู้หญิงเองอาจต้องรู้ไว้เพื่อการป้องกัน
ที่บอกว่าการใช้ถุงยางอนามัยเป็นการป้องกันที่ดีที่สุด เพราะเป็นการป้องกันไม่ให้น้ำอสุจิของผู้ชายเข้าไปในร่างกายของฝ่ายหญิง และถุงยางทำจากยางธรรมชาติมีคุณภาพสูงไม่ขาดหรือรั่วได้ง่ายขณะมีเพศสัมพันธ์ สามารถหาซื้อได้ง่ายและมีราคาไม่แพง ไม่มีผลข้างเคียงใดๆ กับร่างกาย
2. การกินยาคุมกำเนิด
ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงที่มีการคุมกำเนิดด้วยวิธีนี้ โดยทั่วไปการกินยาคุมกำเนิดจะเป็นการกินฮอร์โมนรวมหรือฮอร์โมนเดี่ยว ซึ่งจะป้องกันไม่ให้ไข่ตกและหรือทำให้มูกบริเวณปากมดลูกหนาขึ้นทำให้สเปิร์มไม่สามารถปฏิสนธิกับไข่ และอาจทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่เหมาะกับการฝังตัว ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์ ยาคุมกำเนิดที่คนนิยมซื้อมากินจะเป็นแบบกินต่อเนื่อง 21 เม็ดและ 28 เม็ด
3. การกินยาคุมฉุกเฉิน
วิธีนี้จะใช้ในกรณีที่ฉุกเฉินเท่านั้นหรือใช้เมื่อมีเพศสัมพันธ์แต่ไม่ได้ป้องกัน หรือกรณีอื่น เช่น ถุงยางรั่วหรือขาดขณะมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งโดยปกติการกินยาฉุกเฉินจะกิน 2 เม็ดโดยเม็ดแรกควรกินทันทีหลังจากมีเพศสัมพันธ์หรือควรกินภายใน 24 ชั่วโมงและกินเม็ดที่สองหลังจากเม็ดแรก 12 ชั่วโมงจะช่วยทำให้ยามีประสิทธิภาพมากขึ้น หลังจากรับประทานยาทั้ง 2 เม็ดแล้วภายใน 1 สัปดาห์หลังจากนั้นจะมีประจำเดือน การกินยาคุมฉุกเฉินอาจทำให้มีผลข้างเคียง เช่น อาเจียน เวียนศีรษะ หากมีอาการที่ผิดปกติควรรีบพบแพทย์
ในปัจจุบันนี้การติดต่อสื่อสารที่สะดวกรวดเร็วทำให้วัยรุ่นรู้จักคบหากันง่ายขึ้น ฉาบฉวยขึ้น เรื่องเพศสัมพันธ์วัยรุ่นที่เกิดขึ้นเร็วจึงกลายเป็นของคู่กัน ดังนั้น ถ้าวัยรุ่นมีวิธีป้องกันด้วยวิธีต่างๆ ตามที่กล่าวมา ก็จะช่วยป้องกันการตั้งครรภ์และป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ แต่ไม่ว่าจะเป็นการคุมกำเนิดด้วยวิธีใดก็ตามไม่สามารถยืนยันประสิทธิภาพได้100% ดังนั้นการมีเพศสัมพันธ์ควรอยู่ในช่วงวัย ช่วงเวลาที่เหมาะสม และรู้จักวิธีป้องกันที่ถูกต้อง เป็นสิ่งที่ดีที่สุด
