ในภาวะสังคมที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย การทำงานที่เร่งรีบ และความเคร่งเครียดเกิดขึ้นบ่อยครั้งในชีวิตประจำวันเป็นภาพที่เห็นได้ชัดมาก ผู้คนต่างใช้พลังงานในแต่ละวันหมดไปกับการแก้ไขปัญหาต่างๆ ความเครียดที่รุมเร้า การรับประทานอาหารไม่ตรงเวลา ได้รับสารอาหารไม่พอเพียง ขาดการพักผ่อน ขาดการออกกำลังกาย เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ทำให้ร่างกายอ่อนล้าอ่อนแรงลงทุกขณะ จนบางครั้งแทบไม่มีแรงทำงาน จึงจำต้องใช้เครื่องดื่มชูกำลัง เช่น กาแฟ เข้ามาช่วย ในบางครั้งกาแฟหลายแก้วก็ยังไม่สามารถให้พลังงานได้ดีพอ ยิ่งนานวันก็ยิ่งอ่อนแรง ซึ่งอาจจะนำไปสู่ภาวะภูมิคุ้มกันที่ลดลง ภาวะฮอร์โมนที่เริ่มแปรปรวน ภาวะการเผาผลาญลดลง ส่งผลต่อน้ำหนักตัวที่ควบคุมได้ยาก ซึ่งหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ สุขภาพร่างกายก็อาจจะแย่ลงและนำมาสู่การเกิดโรคต่างๆ อาทิ เช่น ภาวะอ้วนลงพุง โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง ภูมิแพ้ เป็นต้น ดังนั้นจะเห็นได้ว่าจากเรื่องอาการอ่อนล้าทั่วๆไป นอกจากส่งผลเสียต่อประสิทธิภาพการทำงานในชีวิตประจำวันแล้ว หากปล่อยทิ้งไว้นานวันเข้าโดยปราศจากการดูแลอย่างถูกวิธีอาจนำไปสู่การเจ็บป่วยเป็นโรคเรื้อรังต่างๆได้ในอนาคตอีกด้วย
คนมักเข้าใจว่ากาแฟเป็นตัวแก้ปัญหา แต่จริงๆ แล้วกลับทำให้แย่ลงในระยะยาว เมื่อร่างกายอ่อนล้าแสดงว่าร่างกายกำลังเตือนว่าใช้งานหนักเกินไป ร่างกายควรได้รับการพักผ่อนหรือได้รับสารอาหารที่มีประโยขน์เพื่อเสริมสร้างพลังงาน แต่กาแฟกลับไปกระตุ้นบีบเค้นให้ทำงานหนักขึ้น เพราะฉะนั้นจะพบว่าเมื่อกาแฟหมดฤทธิ์ร่างกายกลับยิ่งเพลียและคนก็ยิ่งติดกาแฟ ต้องดื่มกาแฟเพิ่มปริมาณมากขึ้นเรื่อยๆ เหล่านี้ล้วนส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว
เลือกรับประทานยี่ห้อที่เชื่อถือได้ ขนาดเหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล มีระยะเวลาการรับประทานที่เหมาะสม เพราะวิตามินบางชนิดหากรับประทานมากหรือนานเกินไปก็อาจสะสมและเกิดผลเสียได้ ดังนั้นควรมีการศึกษาข้อมูลให้ดีหรือปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน นอกจากนี้อาการอ่อนล้าดังกล่าวอาจร่วมกับกับการมีความผิดปกติบางอย่างได้อีกด้วย หากพบว่ามีอาการผิดปกติอื่นๆ ร่วมด้วย ควรมาพบแพทย์
สมัครสมาชิกเพื่อจัดเก็บข้อมูลของคุณสำหรับการนัดหมายครั้งต่อไป
มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว? เข้าสู่ระบบที่นี่