ปราบ…มะเร็งลำไส้ใหญ่

ปราบ…มะเร็งลำไส้ใหญ่

ปัจจุบันมะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตที่พบได้บ่อยมากขึ้นในคนทั่วโลก สำหรับในประเทศไทยเองก็พบผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน ตามอุบัติการณ์ของการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ในประเทศไทย โดยข้อมูลจากสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ปี 2012 ถ้าแบ่งเป็นเพศหญิงกับชายแล้ว ในเพศชายมะเร็งปอดมาเป็นอันดับหนึ่ง อันดับที่สองได้แก่ มะเร็งสำไส้ใหญ่ และมะเร็งตับมาเป็นอันดับสาม ส่วนในเพศหญิง มะเร็งเต้านมเข้าวินติดอันดับหนึ่ง อันดับสองตามมาด้วยมะเร็งปากมดลูก และอันดับสามได้แก่ มะเร็งลำไส้ใหญ่

ไม่ว่าจะมะเร็งลำไส้ใหญ่อันดับสองในเพศชาย หรืออันดับสามในเพศหญิง ถือว่าเป็นตำแหน่งที่สำคัญไม่น้อยเลย แต่มะเร็งลำไส้ใหญ่เป็นมะเร็งที่สามารถคัดกรองและเฝ้าระวังได้ด้วยการส่องกล้อง ซึ่งในปัจจุบันมีนวัตกรรมล้ำๆ และเทคนิคใหม่ๆ ที่สามารถตรวจ คัดกรองโรค และให้การรักษาได้อย่างตรงจุดมากขึ้น เรียกว่า นวัตกรรม NBI (Narrow Band Imaging) ที่ช่วยให้แพทย์สามารถตรวจพบก้อนเนื้อได้ในระยะเริ่มแรกแม้ก้อนเนื้อยังไม่นูนขึ้นมา ช่วยให้วินิจฉัยได้แม่นยำมากขึ้นจึงทำให้การรักษาแม่นยำขึ้นด้วย ย่นเวลาในการผ่าตัด ทำให้คนไข้ฟื้นตัวเร็ว ลดภาวะแทรกซ้อน และถ้าตรวจพบความผิดปกติของลำไส้ก็สามารถตัดชิ้นเนื้อที่ผิดปกติได้อย่างปลอดภัยโดยไม่ต้องผ่าตัดเกินความจำเป็น

ที่ผ่านมา แพทย์ใช้วิธีส่องกล้องทั่วไปโดยใช้แสงสีขาวในการส่องดูลำไส้และระบบทางเดินอาหาร ทำให้ดูติ่งเนื้อที่มีความผิดปกติไม่ชัดเจน ต่อมาได้มีการนำสีย้อมมาใช้กับการกล้องส่องเพื่อให้เห็นรูปแบบของการวางตัวของเซลล์ในติ่งเนื้อได้ชัดเจนมากขึ้น แต่การใช้วิธีย้อมให้ติดสีใช้ระยะเวลานาน ล่าสุดจึงได้มีการพัฒนาเปลี่ยนสเปกตรัมของแสงที่ใช้ในการส่องกล้องให้แคบลงทำให้เกิดสีเขียวฟ้า ทำให้เห็นภาพเสมือนกับการย้อมสี จึงทำให้เห็นเยื่อบุลำไส้ที่สงสัยได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

การส่องกล้องด้วยวิธี NBI

สามารถทำให้เห็นรูปแบบการเรียงตัวของเซลล์เนื้อเยื่อลำไส้ได้ชัดเจนขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับในสมัยก่อน นำไปสู่การแยกติ่งเนื้อว่าเป็นติ่งเนื้อธรรมดา ติ่งเนื้อที่มีความเสี่ยงเป็นมะเร็ง หรือเป็นติ่งเนื้อที่อยู่ในระยะเป็นมะเร็งแล้ว ซึ่งการเรียงตัวของเซลล์เนื้อเยื่อแบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ

ชนิดที่ 1 เซลล์เนื้อเยื่อของติ่งเนื้อยังมีการเรียงตัวปกติ ดังนั้น แพทย์จะเพียงเฝ้ารอดูไปเรื่อยๆ โดยไม่ต้องทำการผ่าตัดเพราะมีโอกาสเป็นเนื้อร้ายน้อยมาก

ชนิดที่ 2 การเรียงตัวของเซลล์เนื้อเยื่อมีลักษณะเป็นเส้นคล้ายกับตาข่าย ซึ่งมีแนวโน้มที่จะกลายเป็นเนื้อร้ายได้ในอนาคต ดังนั้น แพทย์จะทำการตัดติ่งเนื้อออกทันที โดยใช้ขดลวดหรือมีดไฟฟ้าชนิดพิเศษ

ชนิดที่ 3 เซลล์เนื้อเยื่อมีลักษณะขยุกขยุยไม่เป็นระเบียบ ปรากฏลักษณะของเซลล์มะเร็ง กรณีนี้แพทย์จะไม่ตัดติ่งเนื้อนี้ด้วยวิธีส่องกล้อง แต่จะต้องปรึกษาเพื่อหาวิธีที่เหมาะสมต่อไป

เพราะการส่องกล้องนั้นมีประโยชน์แบบนี้นี่เอง ทั่วโลกจึงให้ความสำคัญกับโปรแกรมการส่องกล้องลำไส้ใหญ่ เพื่อเฝ้าระวังการเกิดโรคมะเร็งลำไส้ขึ้นมา โดยดูว่าในลำไส้ใหญ่มีติ่งเนื้อหรือไม่ ถ้ามีก็ตัดทิ้งและนำชิ้นเนื้อมาตรวจก่อนที่จะเป็นมะเร็ง และหากเป็นมะเร็ง ก็จะพบว่าเป็นมะเร็งในระยะต้นๆ ซึ่งรักษาได้หายขาด เพราะโดยส่วนใหญ่มะเร็งลำไส้ใหญ่ จะเริ่มต้นจากติ่งเนื้อ (Polyp) ก่อน และเมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า ติ่งเนื้อนี้อาจกลายเป็นมะเร็งได้ พบบ่อยในคนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่อายุน้อยกว่า 50 ปี จะไม่มีโอกาสเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ และสิ่งที่น่าตกใจไม่น้อยเมื่อข้อมูลล่าสุดพบว่า 1 ใน 7 คน ของผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ จะมีอายุน้อยกว่า 50 ปี ซึ่งตอนนี้ทางฝั่งอเมริกาเองก็กำลังสนใจในประเด็นนี้อยู่ และอาจจะเตรียมวางแผนที่จะให้เริ่มการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ในคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป แทนอายุ 50 ปี อย่างที่ใช้อยู่ในปัจจุบันก็เป็นได้

แต่สำหรับคนที่ในครอบครัวมีประวัติการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ หรือกลุ่มคนที่มีโรคบางโรคที่จะไปเพิ่มโอกาสเสี่ยง เช่น คนที่มีติ่งเนื้อโดยเฉพาะในลำไส้ใหญ่ คนที่เป็นโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรังนั้น ควรมาทำการตรวจคัดกรองกันตั้งแต่เนิ่นๆ โดยไม่ต้องรอให้มีอาการ อย่างถ้าคนที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ แนะนำให้เอาอายุของคนที่เป็นมะเร็งในเครือญาติที่ใกล้ชิดติดกันลบด้วย 10 เช่น หากคุณพ่อเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ตอนอายุ 45 ลบออกด้วย 10 จะเหลือ 35 เพราะฉะนั้น คุณลูกเมื่อมีอายุ 35 ปี ก็ควรทำการส่องกล้องเลย โดยไม่ต้องรอให้อายุถึง 50 ปี

สุดท้ายนายแพทย์ ธวัช มงคลพร ขอฝากเคล็ดที่ไม่ลับในการปราบมะเร็งลำไส้ใหญ่ให้อยู่หมัด อยากให้ทุกคนหมั่นดูแลและสังเกตตัวเองว่ามีอาการปวดท้องเรื้อรังหรือไม่ ถ่ายผิดปกติไปจากเดิมหรือเปล่า มีเลือดปนมากับอุจจาระหรือไม่ ถ้ามีอาการแบบนี้ต้องรีบมาพบหมอทันที อย่าปล่อยทิ้งไว้ ใส่ใจเรื่องอาหารการกิน ลดการรับประทานอาหารประเภทสัตว์เนื้อแดง โดยเฉพาะเนื้อแปรรูป (processed meat) เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน ฯลฯ ซึ่งเป็นอาหารที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ ที่สำคัญใครที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ควรมาทำการตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่ด้วยการส่องกล้อง เพื่อป้องกันและรักษาได้ในคราวเดียวกัน การส่องกล้องอาจสามารถเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ก็จริง แต่โอกาสเกิดนั้นน้อยมากแค่ 1-2 คนใน 1,000 คน ถ้าอายุถึงแล้วก็ควรจะส่อง เพราะถ้าเจอมะเร็งในระยะแรก โอกาสรักษาให้หายขาดก็มาก ค่าใช้จ่ายก็น้อยกว่านะครับ

คุณเสี่ยง...มะเร็งลำไส้ใหญ่หรือไม่ ?

สมิติเวชรณรงค์ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ หากคุณอายุ 45+ หรือมีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ สามารถทำแบบประเมินความเสี่ยงเบื้องต้น พร้อมรับสิทธิพิเศษปรึกษาคุณหมอทางออนไลน์ ฟรี ! คลิกที่นี่


คะแนนบทความ

มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว?