ปัจจุบัน นอกจากผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิว ผลัดเซลล์ผิว และบำรุงผิวแล้ว หลายคนเริ่มหันกลับไปใช้วัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติมาประทินผิวแทนในบางขั้นตอน ซึ่งในตอนนี้มีกระแสการใช้น้ำมะนาวสดมาพอกหน้า เพื่อให้ผิวขาว กระจ่างใส แต่พบว่าหลายคนอาจมีอาการผิวแพ้ ระคายเคือง บวมและอักเสบตามมาได้
ปกติแล้ว พืชบางชนิดนั้นมีพิษกับผิวหนังได้ หากไม่ระมัดระวัง และเผลอไปสัมผัสด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ สามารถจำแนกตามอาการที่แสดงออกได้เป็น
ในประวัติศาตร์เคยมีการระบุว่า ราวคริสต์ศตวรรษที่ 19 มะนาวถูกใช้ในการป้องกันและรักษาโรคลักปิดลักเปิด ซึ่งเคยเป็นปัญหาของนักเดินเรือมาช้านาน เพราะในมะนาวมีวิตามินซีอยู่มาก
มะนาวมีน้ำหอมระเหยที่ให้กลิ่นสดชื่น เพราะมีส่วนประกอบของสารซิโตรเนลลัล (Citronellal) ซิโครเนลลิล อะซีเตต (Citronellyl Acetate) ไลโมนีน (Limonene) ไลนาลูล (Linalool) เทอร์พีนีออล (Terpeneol) ฯลฯ รวมทั้งกรดซิตริก (Citric Acid) กรดมาลิค (Malic Acid) ซึ่งถือเป็นกรดจากผลไม้ (AHA: Alpha Hydroxy Acids) ที่มีคุณสมบัติช่วยให้เซลล์ผิวหน้าที่เสื่อมสภาพหลุดลอกออกไป พร้อมๆ กับช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ๆ ช่วยให้รอยด่างดำหรือรอยแผลเป็นจางลง
มะนาวจึงมักเป็นหนึ่งในผลไม้ที่นำมาใช้ในการดูแลผิวพรรณ เพราะอุดมไปด้วยวิตามินซีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระสาเหตุของริ้วรอย นอกจากนั้นยังมีคุณสมบัติเป็น ไวท์เทนนิ่งช่วยให้ผิวกระจ่างใสอย่างเป็นธรรมชาติ โดยมักจะสกัดแล้วนำมาผสมกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิว แต่หลังจากมีกระแสการใช้น้ำมะนาวสดพอกหน้า เพื่อให้ผิวขาว กระจ่างใส กลับพบว่าหลายคนมีอาการคัน แสบ ระคายเคือง ซึ่งอาการนี้เรียกว่า berloque dermatitis ภาวะนี้เป็นอาการของผื่นผิวหนังรูปแบบหนึ่ง สาเหตุมาจากการสัมผัสถูกสาร bergapten ซึ่งพบได้ในมะกรูดและมะนาว เมื่อสัมผัสไปบ่อยๆ แล้วไปออกแดดจัดอาจเกิดผื่นดำเกิดขึ้นใน 2-7 วัน โดยไม่มีอาการคันหรือแสบนำมาก่อน หากปล่อยทิ้งไว้อาจทำให้เกิดอาการระคายเคือง และผิวอักเสบตามมา
*โปรดระบุ
สมัครสมาชิกเพื่อจัดเก็บข้อมูลของคุณสำหรับการนัดหมายครั้งต่อไป
มีบัญชีผู้ใช้อยู่แล้ว? เข้าสู่ระบบที่นี่