ทั้งคุณโบว์และครอบครัวรักษาที่โรงพยาบาลสมิติเวชมานานหลายปี เธอจึงมอบความไว้วางใจอย่างเต็มที่ให้ นายแพทย์วิชัย วาสนสิริ เป็นผู้ทำการผ่าตัด ในขณะที่คุณโบว์กำลังเข้ารับการรักษาด้วยการทำเคมีบำบัดกับ นายแพทย์วิโรจน์ เหล่าสุนทรศิริ แม้คุณโบว์และครอบครัวจะต้องเผชิญกับช่วงเวลาอันยากลำบากแต่คุณโบว์ก็พร้อมแบ่งปันเรื่องราวของเธอซึ่งยังคงเต็มไปด้วยความสุขและรอยยิ้มเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ผู้อื่นต่อไป…
“ตอนนั้นเราพลาดการนัดตรวจร่างกายประจำปีเพราะมัวแต่ไปสนใจกับสิ่งอื่นๆ ที่พอตอนนี้มองย้อนกลับไปแล้ว สิ่งที่เราไปมุ่งสนใจในตอนนั้นมันไม่ได้สำคัญอะไรเลย”
เวลาที่โบว์หรือคนในครอบครัวเจ็บป่วยก็จะเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมิติเวช จำได้ว่ารักษาที่นี่มาตั้งแต่เด็กๆจนถึงตอนนี้ก็น่าจะ20 – 30 ปี ได้แล้ว จนเรารู้สึกว่าทุกคนที่โรงพยาบาลเป็นเหมือนครอบครัวของตัวเอง เมื่อ4-5 ปีมานี้คุณหมอที่รักษาด้วยเป็นประจำแนะนำให้ไปตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมกับคุณหมอวิชัย หลังจากเข้ารับการตรวจด้วยเครื่องแมมโมแกรมและอัลตร้าซาวด์ก็พบว่าเรามีเม็ดเล็กๆ 4 – 5 เม็ดกระจายอยู่ตามเต้านมทั้งสองข้าง คุณหมอวิชัยจึงให้กลับมาติดตามอาการทุกๆ 6 เดือนเป็นเวลา 2 ปี มาตรวจตามนัดตลอดทุกครั้งจนกระทั่งคุณหมอเปลี่ยนนัดเป็นหนึ่งครั้งต่อปี แต่ในปีที่สองมัวแต่สนใจอยู่กับงานและไม่ค่อยได้ใส่ใจกับการนัดตรวจสุขภาพประจำปีกับคุณหมอ แทนที่จะมาตรวจร่างกายตามนัดในเดือนมกราคม กลับผัดผ่อนไปเรื่อยๆเพราะไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่พอมาตรวจแมมโมแกรมและอัลตร้าซาวด์ในเดือนสิงหาคมคุณหมอก็พบก้อนเนื้อใหม่ขนาดประมาณ 1.5 ซม.ในเต้านมด้านขวา มีลักษณะเข้าข่ายน่าสงสัย คุณหมอจึงขอตรวจชิ้นเนื้อ ตอนนั้นตอบตกลงทันทีเพราะไว้ใจคุณหมอ แม้ในใจจะรู้สึกกลัวๆอยู่บ้าง แต่ทั้งคุณหมอและพยาบาลผู้ช่วยต่างก็ดูแลเป็นอย่างดีพร้อมอธิบายถึงกระบวนการและขั้นตอนต่างๆอย่างละเอียด หลังการตัดชิ้นเนื้อตรวจไปได้สองวันคุณหมอก็เรียกมาพบเพื่อบอกผลตรวจ ความรู้สึกตอนนั้นบอกตัวเราเองว่าคงไม่ใช่ข่าวดีแน่นอน
“ก่อนการผ่าตัดและช่วงทำคีโมเราคิดอยู่เสมอว่าเรากำลังทำสิ่งดีๆให้ตัวเองเพื่อให้ร่างกายของเราดีขึ้น”
เมื่อฟังผลตรวจชิ้นเนื้อกับคุณหมอก็เป็นมะเร็งเหมือนอย่างที่สงสัย ตอนนั้นแวบหนึ่งรู้สึกน้อยใจขึ้นมาว่าทำไมถึงต้องเป็นเราด้วย แต่มีความรู้สึกนี้อยู่ไม่กี่นาทีก็หายไปเมื่อตั้งสติยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะไม่อยากโกหกตัวเอง ตอนนั้นคิดถึงลูกๆและครอบครัวว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร คุณหมอวิชัยก็ให้กำลังใจและเริ่มวางแผนว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป หลังจากคุยกับคุณหมอวิชัยแล้ว ก็รวบรวมสมาธิและสติอีกครั้ง สิ่งแรกที่ลงมือจัดการก็คือความคิดและความรู้สึกของตัวเอง บอกตัวเองว่า ต้องเปิดใจยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นและเราไม่ใช่คนแรกที่กำลังเผชิญกับโรคนี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นจะทำให้ดีที่สุด จะต้องก้าวผ่านไปให้ได้ หลังจากจัดการกับความคิดของตัวเองแล้ว ก็เริ่มสื่อสารกับครอบครัว ผู้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงาน
คุณหมอวิชัยเริ่มอธิบายถึงการผ่าตัดอย่างละเอียด โดยแนวทางการผ่าตัดจะเป็นแบบสงวนเต้านม (Breast Conserving Surgery) แต่จะคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก และจะมีการผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองเซนติเนล (Sentinel Lymph Node Dissection) เพื่อวินิจฉัยการกระจายของมะเร็งมาที่ต่อมน้ำเหลือง ในการผ่าตัดจะเริ่มด้วยการฉีดสีพิเศษเข้าที่บริเวณเต้านม เพื่อให้สีเดินทางเลียนแบบการเดินทางของมะเร็งไปที่ต่อมน้ำเหลือง จากนั้นจะผ่าตัดเอาต่อมน้ำเหลืองที่ติดสีนั้นไปตรวจด่วนภายใน 30 – 40 นาที หากไม่พบเซลล์มะเร็งก็ไม่จำเป็นต้องเลาะต่อมน้ำเหลืองที่อยู่ระดับลึกลงไป ช่วยลดอาการแทรกซ้อนที่จะตามมาหากเลาะต่อมน้ำเหลืองออกทั้งหมด เช่น อาการแขนบวม อาการบวมใต้ท้องแขน ในส่วนของการผ่าตัดก้อนมะเร็งจะผ่ากว้างกว่าก้อนมะเร็งประมาณหนึ่งเซนติเมตรและจะส่งตรวจด่วนว่ารอบๆพบมะเร็งหรือไม่ ถ้ามีก็ต้องผ่าขยายเพิ่มขึ้นอีกโดยคุณหมอจะทำการผ่าตัดแบบนี้แค่สามครั้งเท่านั้น เพราะถ้ามากกว่านี้ต้องพิจารณาทำการผ่าตัดเต้านมออกทั้งหมด ก่อนการผ่าตัดก็มีช่วงที่รู้สึกแย่และสับสนเพราะยังกังวลบางเรื่องอยู่ แต่สิ่งสำคัญคือเราต้องไม่หลอกตัวเอง และได้กลับมาคุยกับคุณหมอวิชัยเกี่ยวกับความกังวลทุกเรื่อง สามีเองก็ถามคุณหมอเกี่ยวกับการผ่าตัดอย่างละเอียด
หลังจากผ่าตัดเสร็จแล้ว คุณหมอบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี และผ่าตัดเอาก้อนเนื้อออกเพียงครั้งเดียว ผลการทดสอบพบว่ามะเร็งได้มีการเดินทางที่ต่อมน้ำเหลืองเซนติเนล 1 ต่อมจาก 4 ต่อมที่เอาไปตรวจ และด้วยผลจากการวิจัยล่าสุดไม่มีความจำเป็นจะต้องเลาะต่อมน้ำเหลืองในระดับที่ลึกลงไปออก โบว์ต้องขอบคุณคุณหมอวิชัยเป็นอย่างมาก คุณหมอมีความเชี่ยวชาญในการผ่าตัดสูงมาก การที่คุณหมอผ่าตัดเก่งและมีความรู้ในการแพทย์ที่ก้าวหน้าอยู่เสมอทำให้เราไม่ต้องถูกเลาะต่อมน้ำเหลืองมากเกินไปทำให้ผลหรือคุณภาพชีวิตหลังผ่าตัดดีมากๆ นอกจากนั้นคุณหมอยังมีความเป็นมืออาชีพและดูแลโบว์เป็นอย่างดี ไม่ทำให้รู้สึกกระอักกระอ่วน ทำให้ไว้ใจในตัวคุณหมอเหมือนสมาชิกในครอบครัวเลยทีเดียว