มะเร็งเต้านมเริ่มต้นจากการกลายพันธุ์ของยีนควบคุมการแบ่งเซลล์เยื่อบุท่อน้ำนมทำให้ไม่สามารถควบคุมการสร้างเซลล์ให้อยู่ในระดับสมดุลได้ ซึ่งปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัดของการเกิดมะเร็งเต้านม ทราบเพียงปัจจัยเสี่ยงที่เพิ่มโอกาสการเกิดมะเร็งเต้านม โดยผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงข้อใดข้อหนึ่งดังต่อไปนี้ ควรได้รับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม
- อายุ 40 ปีขึ้นไป
- มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านม หรือมะเร็งที่เกี่ยวข้อง เช่น มะเร็งรังไข่ มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งตับอ่อน เป็นต้น
- เคยฉายแสงที่ทรวงอกเพื่อรักษามะเร็งต่อมน้ำเหลืองก่อนอายุ 30 ปี
- มีบุตรหลังอายุ 30 ปี หรือไม่มีบุตร
- มีประจำเดือนก่อนอายุ 12 ปี หรือ หมดประจำเดือนช้า หลังอายุ 55 ปี
- ได้รับฮอร์โมนทดแทน (Hormone replacement therapy) หรือยาคุมกำเนิดเป็นระยะเวลานาน
- สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ เป็นเบาหวาน
อาการ อาการที่พบบ่อยคือ คลำพบก้อนที่เต้านม ส่วนอาการอื่นๆ ได้แก่
- มีผื่นหรือแผลที่หัวนม มีน้ำไหลจากหัวนม
- หัวนมบุ๋ม ผิวหนังบวมแดงหรือบุ๋ม เจ็บ
- อาจจะคลำพบต่อมน้ำเหลืองใต้รักแร้
- บางส่วนยังไม่แสดงอาการแต่ตรวจพบจากการตรวจคัดกรอง
การตรวจคัดกรอง มีวัตถุประสงค์เพื่อ ตรวจหามะเร็งก่อนแสดงอาการ ซึ่ง หมายถึงมะเร็งระยะต้น (early breast cancer) ซึ่งเป็นระยะที่ให้ผลการรักษาดีมาก โอกาสรอดชีวิตสูง การรักษาไม่ซับซ้อน และมีโอกาสผ่าตัดแบบสงวนเต้านมได้มากกว่า
การตรวจเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำ ทำให้คุ้นเคยกับเต้านมตนเอง และสามารถพบความผิดปกติและพบแพทย์ได้เร็วขึ้น แนะนำให้ตรวจเดือนละครั้งในช่วงวันที่ 3-7 ของรอบประจำเดือน ไม่ควรตรวจในช่วงที่เต้านมคัดตึง เพราะการตรวจอาจผิดพลาดได้
- การตรวจเต้านมโดยใช้อัลตราซาวด์ (ultrasound)
การตรวจโดยคลื่นเสียงความถี่สูง เสริมจากการตรวจด้วยแมมโมแกรม และเหมาะสำหรับตรวจเต้านมในอายุต่ำกว่า 35 ปี
- การตรวจเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรม (mammogram)
เป็นการถ่ายถาพรังสีเต้านม ซึ่งเป็นวิธีตรวจคัดกรองมาตรฐานในผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไป